“ณัฏฐพล” เปิดชื่อ 3 อดีตแกนนำ กปปส.คุมพื้นที่ ลั่นผู้ว่าฯกทม.ต้องมาจาก พปชร.

เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ (30 พฤศจิกายน 2562) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ สาขาบึงกุ่ม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า เบื้องต้นเราทำงานกับพรรคพปชร. ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ ส.ส. กทม. เลย แต่วันนี้เรามี 12 คน หวังว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นว่าเราจะมี สก. และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มาจากพรรคพปชร. ส่วนจะเป็นใครนั้นขออุบไว้ก่อน เรามั่นใจว่าจะหาบุคคลที่เป็นตัวแทนของประชาชน ที่สามารถทำงานในพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นที่จะสะท้อนกลับมาได้

“เรามีคนที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐและเข้าใจงานการเมือง เช่น นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งตอนนี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นภรรยาของผม ดังนั้นทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเรามีความคุ้นเคยในที่พื้นกทม.อยู่แล้ว” นายณัฏฐพล กล่าว

ต่อมา นายณัฐพล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี การเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับของกรุงเทพมหานครว่า เราได้วางแนวทางไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมจากรัฐบาล ในส่วนของกทม. เราสามารถหาบุคลากรที่ตอบสนองต่อคนกทม. ได้ และสามารถจะทำให้กทม. ดีกว่าทุกวันนี้ วันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนให้เรามาทำงานส่วนนี้

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า เราได้เชิญผู้สมัครมาจากหลายภาคส่วนซึ่งก็ต้องมาดูพิจารณาความเหมาะสมในหลายเรื่อง เราเชื่อว่าการทำงานในกทม. ต้องทำงานเป็นทีม เพราะไม่มีใครเก่งสามารถทำงานคนเดียวได้ ดังนั้นการประกาศตัวในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เราต้องมีทีมที่พร้อม พรรคพปชร. สามารถหาคนที่เหมาะสมมาทำงานตอบสนองให้กทม. ได้อย่างแน่นอน และจะไม่ทำให้คนกทม. ผิดหวัง ขณะนี้กำลังมีการพูดคุยทาบทามคนที่จะมาลงสมัคร และรอความพร้อมจากภาครัฐเพราะอาจจะยังไม่เตรียมพร้อมในเรื่องของงบประมาณในส่วนนี้มากเท่าไหร่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นคนภายนอกหรือภายในพรรคพปชร. นายณัฏฐพล กล่าวว่า หลายๆ คนเป็นคนที่มีความเชื่อมโยงและมีความเข้าใจกับพรรคพปชร. ซึ่งจะส่งในนามพรรคหรือพรรคให้การสนับสนุนนั้นก็ต้องรอพูดคุยกับประธานยุทธศาสตร์ที่ดูแลพื้นที่กทม. หากเราพิจารณารอบด้านแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ส่งในนามพรรค

เมื่อถามว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่กทม. เหมือนที่กล่าวบนเวทีใช่หรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า คนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะต้องมีทักษะ และประสบความสำเร็จในการบริหาร รวมไปถึงต้องมีความเข้าใจบริบทของกทม. หากเราต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ก็ไม่เป็นไร แต่ทั้งนี้ต้องมีความเหมาะสมที่จะมาทดแทนความไม่เข้าใจบริบทของกทม. เราเป็นทีมที่ต้องเข้มแข็ง ทั้ง ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ และที่ปรึกษา ซึ่งเราอาจจะไม่เปิดตัวพร้อมกัน

ต่อข้อถามว่าอาจจะส่งผู้หญิงลงชิง ผู้ว่าฯ กทม. นายณัฏฐพล กล่าวว่า ตนคิดว่าหากเป็นคนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หากมีความสามารถในการบริหารกทม. เราก็พร้อมที่จะพิจารณา ซึ่งเราจะพิจารณาผู้สมัครของผู้แข่งขันด้วย เพื่อความรอบคอบในการวางผู้สมัคร เรายึดมั่นในโอกาสของพรรคพปชร. ที่มีส.ส. และการสนับนุนในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็มีหวังว่า พี่น้องในกทม. จะเห็นถึงความตั้งใจว่าเราจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนกทม. ผิดหวัง

“เพราะที่ผ่านมาผม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. หลายๆ ท่านก็ได้แสดงให้เห็นว่าเรามีความเข้าใจในบริบทของกทม. ซึ่งนั้นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด หากเราไม่เข้าใจ และเรามาเสนอตัวทำงานคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว กทม.รอไม่ได้ กทม.ต้องมีการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ต้องแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ เพราะเป็นเมืองสำคัญ เราต้องตั้งหลักในการเป็นเมืองนำของประเทศไทย”