“หมอวรงค์”สมัครสมาชิกพรรค รปช. ยันไม่มีต่อรองตำแหน่ง ไม่มีทะเลาะ ปชป.

ข่าวสดออนไลน์

“รปช.” จัดงานใหญ่รับ “หมอวรงค์” สมัครสมาชิก มอบงานทำสาขาพรรคเข้มแข็ง “เทือก” โว ก่อนชกตัว “หมอวรงค์” แค่ ปชป.หายใจก็รู้ ยัน “หม่อมเต่า” ยังนั่งหัวหน้าพรรค-รมว.แรงงาน ยาวจบครบสมัย รบ.
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.‪ เวลา‬ ‪10.00 น. ที่อาคารทู แปซิฟิคเพลส พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดงานต้อนรับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รปช. แทน โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรค รปช. กล่าวว่า

หลายคนอาจมองว่าพรรคของเราดูเงียบๆ ไป แต่ความจริงเราทำงานทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้ออกไปเคลื่อนไหวภายนอกในพื้นที่ต่างๆ เพราะเราเมื่อเข้าร่วมรัฐบาลได้รับมอบหมายให้ไปดูแลกระทรวงแรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครปช. ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เราทั้งพรรคมาร่วมกันระดมความคิดเห็นปรึกษาหารือเพื่อให้กระทรวงแรงงานสามารถที่จะก่อประโยชน์ให้ประเทศชาติในระยะยาว ซึ่งใช้เวลาพอสมควร‬

นายสุเทพกล่าวอีกว่า เรื่องระบบประกันสังคมของประเทศไทย 20-30 ปีข้างหน้าประเทศต้องพึ่งระบบประกันสังคม เราจึงจะจัดเวทีระดมความเห็นเรื่องที่จะทำให้ระบบประกันสังคมมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น เรื่องนี้ขอฝากว่าท่านใดมีความคิดความเห็นอย่างไรให้เสนอเข้ามา ร่วมกันคิดว่าจะทำให้ระบบประกันสังคมยั่งยืน มั่นคง ได้อย่างไร

เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม คิดว่าจะทำอย่างไรให้เงินกองทุนงอกเงย ซึ่งหัวหน้าพรรคให้แนวทางไว้หลายวิธีการ นอกจากนี้ เรายังต้องช่วยกันวางแผนยกระดับคุณภาพคนไทยเพื่อรองรับเศรษฐกิจเติบโตในอนาคต ประชาชนคนไทยในวันข้างหน้าจะทำงานอะไร นี่คื เรื่องของกระทรวงแรงานที่ต้องเตรียมการ

ปัญหาเฉพาะหน้าวันนี้คือเศรษฐกิจบ้านเราไม่ดี ซึ่งกระทรวงแรงงานก็ต้องคิดว่าจะดูแลอย่างไร ขณะเดียวกันงานตามนโยบายของพรรคด้านอื่นๆ ก็ต้องร่วมกันทำให้ชัดเจนด้วย เช่น การออกร่างพระราชบัญญัติบริหารราชการจังหวัด เพื่อกระจายอำนาจส่วนกลางให้ท้องถิ่น หรือกฎหมายว่าด้วยกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งตอนนี้พี่น้องประสบปัญหาอยู่

นายสุเทพกล่าวต่อว่า แต่ละพื้นที่ พรรคต้องมีสาขาพรรคที่มีความเข้มแข็งและทำงานพรรคอย่างใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งยากมาก ต้องมีคนเข้าใจการเมืองเข้าใจปัญหาประชาชน ตั้งใจ ทุ่มเท เพื่อร่วมกับผู้นำชุมนุม และจัดตั้งสาขาพรรคให้แข็งแรง เราต้องแสวงหาคนดีมีอุดมการณ์เดียวกัน

การบริหารพรรคทั้งสำนักงานใหญ่ สาขาพรรคต้องการคนเหล่านี้ ในส่วนของสำนักงานใหญ่ต้องการผู้บริหาร ผู้อำนวยการพรรค ซึ่งตนก็พยายามหา ก่อนเลือกตั้งไม่ได้เจอ แต่หลังเลือกตั้งเจอ นายดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล เจ้าของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาเป็นผู้อำนวยการพรรค และเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน

“ส่วนหมอวรงค์นั้น ผมได้ข่าวว่าหมอกำลังจะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องถามว่าผมรู้ได้อย่างไรก็เพราะผมเคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน และอยู่พรรคประชาธิปัตย์มา 40 ปี ฉะนั้น ประชาธิปัตย์หายใจอย่างไรผมรู้หมด พอได้ข่าวว่าหมอกำลังเดินทางไปพบท่านชวน เพื่อลา หมอวรงค์น่ารักมาก กว่าจะประกาศตัวชัดเจน ก็เดินสายไปบอกคนสำคัญในประชาธิปัตย์ ว่าจะลาออกจากพรรค

เมื่อผมได้ข่าวก็เรียนกรรมการบริหารพรรคของเรา จนมีมติว่าทันทีที่ลาออกเป็นทางการให้ผมเป็นตัวแทนพรรคไปเรียนเชิญ ผมเลยทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษ แต่ไม่ต้องคุยมาก รู้สึกว่าหมอวรงค์ก็ชอบๆ พรรคเราอยู่แล้ว พรหมลิชิตชักพา หมอถามถึงความตั้งใจว่าจะพาพรรคไปทำอะไรบ้าง คุยกันเสร็จก็บอกว่าเมื่อยื่นใบลาออกจากประชาธิปัตย์แล้ว จะมาสมัคร รปช. ทันที” นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวต่อว่า สมัยที่ตนทำงานเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต้องดูแลและทำงานร่วมกับสมาชิก หมอวรงค์เรียกว่าเป็นคนที่ตนถูกใจคนเดียว ตั้งใจทำงาน มุ่งมานะ เอาจริงเอาจังสมเป็นตัวแทนประชาชนที่ได้รับความไว้วางใจ

โดยผลงานที่เข้าตากรรมการมากที่สุดคือ ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีการทุจริตติดอันดับโลก ในสภาไม่มีความสนใจอะไรมากมายเพราะไม่มีข้อมูล แต่หมอวรงค์นำข้อมูลมาบอกสมาชิกพรรค ใหม่ๆ คนไม่ค่อยเชื่อมั่น เพราะเป็นหมอไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านข้าว แต่หมอวรงค์ก็ทุ่มเทให้กับข้อมูลตลอด

และที่ประหลาดใจคือหมอวรงค์ได้สำเนาเช็คของเสี่ยเปรี๋ยงมาได้ ซึ่งผลจากความทุ่มเทนี้ ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นพิษภัยความร้ายกาจของพรรคการเมือง ของผู้บริหารประเทศกระทำการหาประโยชน์จากทางอำนาจทางการเมืองที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ความที่รู้จักใกล้ชิดกับหมอวรงค์ รู้ธรรมชาตินิสัยเป็นอย่างไร วิญญาณอุดมการณ์เป็นอย่างไร

พอทราบว่าจะลาออก ก็รีบมารายงานต่อคณะกรรมการบริหาร หมอวรงค์จะมาเป็นกำลังสำคัญของเรา ตนก็รอว่าเมื่อหมอเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคโดยสมบูรณ์แล้ว จะนำเสนอหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมายทำหน้าที่เป็นผู้ออกไปเคลื่อนไหวจัดตั้งสาขาพรรคในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ดังนั้น คิดว่าหมอจะทำงานให้พรรคได้ดี ตั้งสาขาพรรคที่ไหน ติดต่อหมอได้เป็นการพิเศษ

“อาจมีคนปั่นกระแสว่ามีการตกลงกับหมอวรงค์ให้มาเป็นหัวหน้าพรรค หรือจะให้เป็นรัฐมนตรีหลังมีการปรับครม. ผมว่าเขาเหล่านั้นคาดการณ์กันไปเยอะมาก เรียนยืนยันต่อหน้าทุกท่านว่า ม.ร.ว.จัตุมงคลยังจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปจนครบสี่ปี และจะยังทำหน้าที่เป็นรมต.ต่อไปจนจบสมัยของรัฐบาลนี้” นายสุเทพ กล่าว

ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รปช. กล่าวว่า พรรคของเราเดินทางมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังเห็นว่ายังไม่มีมืออาชีพทางการเมือง ตัวนายสุเทพทุกคนยอมรับ แต่มีฐานะลำบากไม่ได้ทำแบบนักการเมืองเต็มที่ วันนี้เราได้นักการเมืองมืออาชีพ มีผลงาน มาเป็นสมาชิก จึงรู้สึกดีใจที่หมอวรงค์ตัดสินใจมาลงพรรคนี้ คิดว่าถ้าเขาจะไปลงพรรคไหนก็มีแต่คนเอาทั้งนั้น แต่เป็นนักการเมืองต้องมองให้ออกว่าตรงไหนเป็นโอกาสในหน้าที่การงานทางการเมือง

ต่อมานายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค รับใบสมัครสมาชิกจาก นพ.วรงค์ และสวมเสื้อสูทประจำพรรค รปช. ให้ นพ.วรงค์

จากนั้น นพ.วรงค์กล่าวว่า ตนรู้สึกอบอุ่น คิดไม่ถึงว่าพรรคจะจัดต้อนรับอบอุ่นมาก ถ้ารู้ว่าอบอุ่นมากขนาดนี้อาจจะมาเร็วกว่านี้ หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น เราได้เห็นพัฒนาการปัญหาของประเทศและเวลานี้ภารกิจเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของตนก็จบบริบรูณ์ แต่ยังเห็นว่าการเมืองเวลานี้เปลี่ยนไปเยอะมาก

ที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้กับระบบทักษิณแต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปว่าเราต้องต่อสู้กับการทุจริตในเชิงนโยบาย ซึ่งตนรู้สึกว่ามันอันตรายมาก จะให้นั่งอยู่เฉยๆ ตนทำไม่ได้ ดังนั้นตนจึงตัดสินใจไปพบกับนายชวน เล่าให้ฟังว่าวันนี้การเมืองเปลี่ยนไปโดยเกิดจากปัญหาในสภา เกิดลัทธิชังชาติที่กำลังปลูกฝังเยาวชนของเราให้เดินผิดทาง และเวลานี้การเมืองไม่ได้เกิดจาก 2 พรรคใหญ่แต่มีการเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มการเมืองฝั่งเขาฝั่งเรา

ซึ่งตนยังบอกกับนายชวนตรงๆ ว่า ยังรักและผูกพันกับพรรค ปชป.วันนี้พรรคทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้ดีมาก แต่สไตล์ของตนไม่เหมาะกับงานแบบนี้ แต่เหมาะกับพวกชังชาติ พอดีได้กับการทาบทามจากนายสุเทพ จึงรู้สึกว่ามาอยู่ที่นี่น่าจะช่วยประเทศชาติได้เยอะกว่า ตนจึงตอบรับและมาอยู่กับพรรครปช.

ส่วนที่สื่อหลายสำนักระบุว่าการมาอยู่พรรครปช.มีการต่อรองตำแหน่ง นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่มีการต่อรองตำแหน่งสักตำแหน่งแต่ไม่มีการขัดแย้งกับพรรคปชป.ซึ่งตนยังบอกกับพรรคปชป.ด้วยว่าวันนี้พวกเราต้องไม่ทะเลาะกัน อาจขัดใจกันบางก็ต้องอดทนไว้ และทุกอย่างก็จะก้าวไปได้ด้วยดี

“พรรครปช.เหมาะสมกับตัวตนของผมในการทำงานการเมือง แต่ยืนยันว่าลำพังผม หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค คงไม่พอเราต้องการประชาชน ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยดี ทุกคนก็ต้องมาร่วมกับผม” นพ.วรงค์กล่าว

เมื่อถามว่างานที่ นพ.วรงค์ได้รับมอบหมายคือ งานด้านการตั้งสาขาพรรค เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายสุเทพกล่าวว่า นายทวีศักดิ์ยังเป็นเลขาธิการพรร จนครบ 4 ปี จนกว่าจะมีการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรค ดังนั้น ยากมากที่นพ.วรงค์จะได้เป็นเลขาธิการพรรค และพรรคนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของลุงกำนัน ส่วนจะตั้งเป็นประธานคณะยุทธศาสตร์หรือไม่นั้น พรรคเราไม่นิยมเลียนแบบพรรคอื่น

เมื่อถามว่าจะมีเพื่อนส.ส.ประชาธิปัตย์ย้ายมาด้วยหรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า เชื่อว่าเพื่อนส.ส.จับตาดูอยู่ว่ามาแล้วทำประโยชน์ให้ส่วนร่วมได้หรือไม่ ถ้าได้ก็อาจจะตามมา ในทางกลับกันหากทำอะไรไม่ได้ก็ไม่มี เมื่อถามย้ำว่าตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้แสดงว่าจะมีเพื่อนสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์มาแน่นอน ใช่หรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่ๆๆ ตอบตามหลักการ เขาคงกำลังจับตาอยู่ถ้าทำได้ดี เชื่อว่าเพื่อนของตนจะมาร่วม

เมื่อถามถึงโอกาสที่จะเข้าไปทำงานสภาในฐานะคนนอก เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญหรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่เคยคิดทำงานในสภา การทำสาขาพรรคต้องไปเยี่ยมภาคประชาชน ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีความคิดจะไปทำงานในสภา ต่อข้อถามถึงวิธีการต่อสู้กับกลุ่มชังชาติ นพ.วรงค์ชี้แจงว่า เราจะไม่ใช้กำลังสู้กับพวกเขา แต่เราใช้สมอง ใช้ความรู้ และความจริงในการต่อสู้