“เสี่ยหนู” แจงนายกฯ ไม่เคยสั่งให้หยุดวิจารณ์ ชี้เป็น “สื่อ” ไม่ใช่มีปากแล้วอยากจะพูดอะไรก็ได้

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการโพสต์ข้อความทางโซเชียล โดยล่าสุดโพสต์รูปนั่งเรือลำเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมระบุว่า “ลงเรือลำเดียวกัน เชื่อฟังกัปตัน ท่านสั่งให้เก็บมือเก็บเท้า” ซึ่งถูกมองว่าอาจถูกสั่งห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ว่า นายกฯไม่ได้สั่งห้ามอะไรเลย ตนทำงานที่ต่างประเทศก็โทรรายงานและเขียนไลน์รายงานให้ทราบทุกวัน เวลารายงานอะไรนายกฯก็บอกว่าขอบคุณมาก ดีแล้ว ขอบคุณมาก แต่รูปโพสต์นั่งในเรือ ที่ตนนั่งอยู่หลังนายกฯ ก็บอกว่าเป็นเด็กดี ก็อาจทำให้คนไปตีความไปเรื่อยๆ และส่วนตัวก็มีความสุขในการทำงานตลอด ไม่ใช่แค่ช่วงนี้ ถ้ามีงานออกไปก็แฮปปี้

เมื่อถามว่า กรณีที่นายกฯเป็นห่วงแทนเรื่องของพรรคภูมิใจไทยกับสื่อบางแห่ง นายอนุทินกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกัน เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานต้องแยกแยะ ใครเป็นคนไปผูกว่าเป็นสื่อของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะสื่อที่มีปัญหากับพรรคภูมิใจไทย คนของพรรคที่ได้รับผลกระทบ เพราะต้องใช้ชื่อของพรรค นโยบายพรรคไปลงพื้นที่พบปะประชาชน เขารู้สึกว่าเสียหายก็ไปแจ้งความดำเนินคดีถือว่าเป็นสิทธิของเขาก็ไปดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นสิทธิของสื่อ พูดอะไรไปก็ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง อย่าพูดอะไรมากเกินไปไม่เข้าท่าก็โดนฟ้อง เมื่อโดนฟ้องก็ไปแก้คดีก็เท่านั้นเอง แต่ตนยังไม่ฟ้องกำลังให้ทนายดูอยู่ เพราะต้องดูรายละเอียดแต่ละข้อไป

“คนเป็นสื่อไม่ใช่มีปากแล้วอยากจะพูดอะไรก็ได้ เพราะมีให้พูดในสิ่งที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ไม่มีข้อเท็จจริงแล้วมาพูด” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่าจะให้ ส.ส.ของพรรคที่มีอยู่ในทุกจังหวัด ไปดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไปสั่งแต่ละคนไม่ได้เพราะเขาใช้สิทธิของเขาคนที่อยู่บุรีรัมย์ก็ฟ้องที่บุรีรัมย์เพราะเราไม่ได้มี ส.ส.จังหวัดเดียวถ้า ส.ส.หรือสมาชิกคนใดเดือดร้อนก็ฟ้องได้ไม่ใช่นโยบายหรือมติของพรรค