‘ธนาธร’ พร้อมสู้ทุกคดีเต็มที่ ไม่กังวลปมกู้เงิน ชี้มองไม่ออกขัดกฎหมายอย่างไร

“ธนาธร”พร้อมสู้ทุกคดีเต็มที่ ไม่กังวลปมให้ อนค.กู้เงิน ชี้มองไม่ออกขัดกฎหมายอย่างไร

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงคดีความที่อาจจะถูกดำเนินการภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ว่า ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นคดีที่ใครเป็นผู้ฟ้องเราก็พร้อมจะสู้อย่างเต็มที่ และที่ตนเดินทางมา กกต.ในวันนี้ก็ไม่ได้มีการคุยนอกรอบเกี่ยวกับการที่ กกต.จะดำเนินคดีอาญาหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องสมาชิกภาพแต่อย่างใด ส่วนคดีที่ตนให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงินนั้นก็ไม่ได้กังวล เพราะถ้าไปถามนักบัญชีหรือนักกฎหมายที่ไหน ก็จะได้คำตอบว่า เงินกู้เป็นหนี้สินอยู่ในงบดุลไม่ใช่รายได้ ไม่อยู่ในงบกำไรขาดทุน จึงไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และมองไม่ออกว่าจะขัดกฎหมายหรือขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร และเราอยากทำงานการเมืองที่โปร่งใสอยากให้สาธารณชนรับทราบ จึงไม่แน่ใจว่าการทำเราทำอย่างนี้จะผิดกฎหมายได้อย่างไร

นายธนาธรกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้รับเอกสารแจ้งจาก กกต.ให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมแล้ว แต่ก็ได้ตอบกลับทาง กกต.ด้วยวาจาไปก่อนว่า ทางพรรคงานเยอะมาก ทำให้ไม่ทัน จึงจะขอขยายระยะเวลาในการส่งเอกสารออกไป อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่ของเราต่อไป เพราะยังมีงานที่ต้องทำอีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ การทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่พรรคอนาคตใหม่เสนอต่อสภา ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเห็นว่าถ้าเราไม่แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำที่โครงสร้างของอำนาจ ปัญหาอื่นๆ ของบ้านเมืองก็จะแก้ไขไม่ได้เลย ความเหลื่อมล้ำความจน ไม่ใช่เรื่องของเวรกรรม ประชาชนไม่ควรจะเป็นผู้ที่รอการสงเคราะห์เพราะเป็นผู้ทรงสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นถ้าเราเชื่อว่าถ้าเราจัดโครงสร้างอำนาจเสียใหม่ ให้เกิดดุลอำนาจที่ประชาชนมีสิทธิมีเสียงและมีค่าในประเทศนี้บ้าง เพื่อจะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาชีวิตความอัตคัดขัดสนของประชาชน ให้ไม่ต้องต่อสู้อย่างเดียวดายตามยถากรรม

เมื่อถามว่า การแก้ไขปัญหาโครงสร้างอำนาจซึ่งจะกระทำกับผู้มีอำนาจจะทำได้อย่างไร นายธนาธรกล่าวว่า  ก็ต้องเจรจาต่อรองกัน ถ้าเราจริงใจต่อการปฏิรูปประเทศพอ ก็ต้องกลับมาพูดเรื่องอำนาจว่าใครมีอำนาจมากน้อยเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมายิ่งปฏิรูปคนกลุ่มเดิมยิ่งมีอำนาจเยอะขึ้น อย่างนี้ไม่เรียกว่าปฏิรูป ถ้าอยากปฏิรูปให้สังคมไทยกลับมาเท่าเทียมกัน ต้องให้อำนาจกลับคืนสู่ประชาชน เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข เพื่อให้บ้านเมืองไปต่อกันได้ เมื่อถามว่า หากมี ส.ส.เขตลาออก เพื่อเปิดทางให้จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ไม่หรอกครับ เราตั้งพรรคการเมืองนี้มาไม่ใช่เพื่อให้พวกเราเป็นรัฐมนตรีหรือ ส.ส. ผมไม่เคยคิดว่าตำแหน่ง ส.ส. รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี คือเป้าหมายสุดท้าย สิ่งที่เราต้องพรรคการเมืองนี้ขึ้นมาคือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

ดังนั้นการเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ซึ่งตนพร้อมทำงานต่อ เมื่อถามว่าในการอภิปรายเรื่อง “ผู้นำการเมืองกับอนาคตประเทศไทย” ที่หลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 10 จัดขึ้น ซึ่งมีการระบุตอนหนึ่งว่าไม่เลียท็อปบู๊ตทหารนั้นถือเป็นความอึดอัดส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากคดีหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ถามว่าใครไม่อึดอัดบ้างในรอบ 10 ปีที่ผ่านมากับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่าประชาชนก็คงเห็นกับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่พร้อมยืนหยัดต่อสู้ เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมความถูกต้อง เรายังคงยืนยันเรื่องการต้องลดอำนาจของกองทัพลง ต้องปฏิรูปกองทัพให้อยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน เป็นทางเดียวที่จะทำให้สังคมเดินต่อไปข้างหน้าได้ ไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในอนาคต