ดีเอสไอเล็งขอศาลเพิ่มเงื่อนไข ‘ชัยวัฒน์’ ห้ามเข้าพื้นที่อุทยานแก่งกระจาน ชี้ยุ่งเหยิงพยาน

จากกรณีดีเอสไอควบคุมตัวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี), นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ 4 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ฆ่าและอำพรางการเสียชีวิตของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ นักเคลื่อนไหวและแกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ถูกควบคุมตัววันที่ 17 เม.ย.57 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติกลาง เป็นเวลา 12 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ระบุว่า วันพรุ่งนี้(18 พ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ฃในคดีคดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ฆ่าและอำพรางการเสียชีวิตของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ นักเคลื่อนไหวและแกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไปยื่นขอให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติกลาง พิจารณาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ตามกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 108/1 (2) (5)

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่าอีกว่า ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนในหลายแขนงที่มีการไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ได่รับการประกันตัว อีกทั้งยังมีการเดินทางไปออกรายการทีวีช่องหนึ่ง ซึ่งพนักงานสอบสวนมองว่าการให้สัมภาษณ์ หรือกล่าวถึงเรื่องข้อมูลพยานหลักฐานทางคดีเป็นสิ่งที่นายชัยวัฒน์ กำลังเข้าข่ายกับการยุ่งเยิงกับพยานหลักฐาน การสร้างระบุถึงพยานหลักฐาน เช่น ถังน้ำมัน ดีเอ็นเอ หรือ เหตุการณ์จับกุมและการปล่อยตัวนายบิลลี่ เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือพยานหลักฐานทางคดี และพนักงานสอบสวน นอกจากนี้พนักงานสอบสวนจะขอให้ศาลพิจารณาเรื่องการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม ในประเด็นการเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นจุดเกิดเหตุและพบพยานหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้แกะเทปรายการทีวีรายการหนึ่งที่นายชัยวัฒน์ไปให้สัมภาษณ์ เรื่องเตรียมจะเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงต้องการเสนอให้ศาลพิจาณา เงื่อนไขห้ามเข้าบริเวณ เพราะยังมีพยานหลักฐานที่ดีเอสไอต้องไปเก็บเพิ่ม เกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้้ยังอีกหลายถ้อยคำที่นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์ ทั้งในเรื่องระบุว่าดีเอสไอนำภาพจากเหตุการณ์จำลอง มาใช้พิจารณาออกหมายจับ รวมทั้งประเด็นกระบวนการได้มาของดีเอ็นเอ ที่พยานลดทอนความหน้าเชื่อถือและเป็นอุปสรรคในการสอบสวนตามของพนักงานสอบสวนตามกฎหมาย