“สม รังสี” ถึงกัวลาลัมเปอร์แล้ว องค์กรสิทธิฯชื่นชมมาเลย์ ผิดกับไทยเลือกไล่จับ

เมื่อวานนี้ (9 พฤศจิกายน 2562) เอเอฟพี รายงานว่า นายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคกู้ชาติกัมพูชา เดินทางจากฝรั่งเศสมาตั้งต้นที่ประเทศมาเลเซียแล้ว แทนประเทศไทยที่ไม่ยอมอนุญาตให้เข้าเมือง พร้อมให้สัมภาษณ์สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า นายฮุน เซน ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างใหญ่หลวง ที่หาทางขัดขวางไม่ให้สมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่นอกประเทศกลับกัมพูชา

“แต่ฝ่ายค้านจะไม่ยอมแพ้ เพราะเราอยู่ในทางที่ถูกต้อง ในเมื่อประชาธิปไตยเป็นจริงในมาเลเซีย ประชาธิปไตยก็จะเป็นจริงในกัมพูชาเช่นกัน” นายสม รังสี กล่าว พร้อมกล่าวกับผู้สนับสนุนที่มารับที่สนามบินว่า ให้รักษาความหวังไว้

ขณะมีรายงานว่าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงกรุงพนมเปญ หน่วยงานความมั่นคงตรึงกำลังแน่นหนา หลังจากสัปดาห์ก่อนฝึกซ้อมรบเพื่อโชว์การเตรียมพร้อมรับมือนายสม รังสี

นายสม  รังสี อายุ 70 ปี ลี้ภัยไปฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2558 หลังรัฐบาลกัมพูชาใช้กฎหมายเล่นงานแกนนำฝ่ายค้านอย่างหนัก กล่าวยืนยันว่า “ผมจะกลับบ้าน นั่นเป็นสิทธิและหน้าที่” แต่ไม่เปิดเผยว่าจะใช้เส้นทางใดกลับเข้าไปกัมพูชา เพียงเผยว่าจะยังอยู่มาเลเซียสักหลายวัน เพื่อพบเพื่อนและเข้าร่วมการหารือในรัฐสภา

ด้านองค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการ ภูมิภาคเอเชีย กล่าวชื่นชมมาเลเซียที่อนุญาตให้นายสม รังสี เดินทางเข้าประเทศได้

“การเคารพสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องยาก ผิดกับประเทศไทยที่ไล่จัดการกับผู้ลี้ภัยกัมพูชา มาเลเซียแสดงให้เห็นในอีกทางหนึ่ง เป็นวิถีการดำเนินการที่เคารพสิทธิ” รอง ผอ.ฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าว

วันเดียวกัน สำนักข่าว วีโอเอ สาขากัมพูชา รายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนสหรัฐจำนวน 5 คน ส่งหนังสือถึงนายไมก์ พอมเพโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้นายพอมเพโอผลักดันให้รัฐบาลกัมพูชาตอบสนองภาระผูกพันเชิงโครงสร้างต่อหลักการประชาธิปไตยเสรีแบบหลายพรรค

ส.ส.สหรัฐทั้ง 5 คน แสดงความกังวลเกี่ยวกับความไม่สงบและความไม่รุนแรงที่อาจเป็นผลตามมา เมื่อพิจารณาจากกรณีที่นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาข่มขู่อดีตผู้นำพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พีที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักที่ประกาศถึงความตั้งใจว่าจะกลับไปยังกัมพูชาในวันที่ 9 พ.ย. ตรงกับวันชาติกัมพูชา

“ฮุน เซนดำเนินการกดขี่เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาอย่างน่าสลดใจ เราเร่งให้กระทรวงการต่างประเทศแสดงความกังวลในประเด็นดังกล่าวกับนายฮุน เซน ช่วงเวลาที่ประชาธิปไตยในภูมิภาคกำลังเสื่อมถอย สหรัฐอเมริกาต้องเพิ่มการสนับสนุนขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อบรรทัดฐานและเสรีภาพที่เป็นประชาธิปไตย”

หนังสือลงนามโดย อาทิ อีเลียต อิงเจิล ส.ส.จากนิวยอร์ก จากพรรคเดโมแครต ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาคองเกรส นายอลัน โลเวนธัล พรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นประธานร่วมกับนายสตีฟ ชาบอต จากพรรครีพับลิกัน รัฐโอไฮโอ ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐใช้มาตรการแซงก์ชั่นเจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลฮุน เซน และยุติการฝึกซ้อมทหารร่วมกัน