‘ทวี สอดส่อง’ ชี้ ประธานกมธ.แก้รธน.ต้องมีพฤติกรรม-ผลงานยึดมั่นปชต.

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีการตั้งประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (กมธ.) ว่า เท่าที่ทราบ 7 พรรคฝ่ายค้านยังไม่ได้มีการหารือกัน เบื้องต้นวาระถูกเลื่อนออกไป แต่ได้พูดคุยกันว่าจะต้องมีการหารือกัน อย่างที่มีการพูดว่าบุคคลที่เข้ามาต้องมีความรู้ความสามารถ ต้องมีพฤติกรรม และผลงานที่เห็นว่ายึดมั่นในรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย เรามุ่งให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตย เพราะมีหลายประเด็นที่เห็นได้ว่าตัวรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรค เช่น โครงสร้างอำนาจของประชาชน รวมถึงการสร้างรัฐราชการขึ้นมา วิธีการนี้ขัดกับหลักประชาธิปไตย เราอยากทำรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดให้ประชาชน เชื่อว่าจะไปแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่แท้จริง แทนที่จะบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง พอมีการสำรวจก็ยิ่งทราบว่ามีการทุจริต เพราะถูกรวมอำนาจ อะไรก็ตามที่อำนาจถูกรวมไว้กับคนกลุ่มหนึ่งแล้วไม่กระจายให้ประชาชนตรวจสอบ ความยุติธรรมจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาต้องมีจิตใจรักประชาธิปไตย

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการดึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณมาร่วมด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทางฝ่ายค้านไม่เคยพูดถึง เพราะบุคลากรในพรรคฝ่ายค้านก็มีคุณสมบัติอยู่ และต้องยอมรับว่าคนที่เอ่ยชื่อ ก็ร่างรัฐธรรมนูญมาเกือบทุกฉบับแล้ว หากเข้ามาก็เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 คือทำให้คนบางคนมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เราก็ต้องใจกว้างฟังทุกฝ่าย

สำหรับกรณีความไม่สงบทางภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้อยากให้ฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เร่งทำการสืบสวนสอบสวน พอได้ตัวคนร้ายมาก็จะทำให้ประชาชนอุ่นใจ อย่างไรก็ตามปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะรอบหลัง 15 ปี มีบางช่วงดูดีขึ้น บางช่วงดูเหตุการณ์อย่างเดียวไม่พอ เพราะเป็นความสงบแบบกดทับ ส่วนตัวยังคิดว่าปัญหาไฟใต้กับประชาธิปไตยน่าจะไปด้วยกัน โดยจะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่ 3 จังหวัดซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเป็นผู้กำหนดหรือรับรู้ว่าตัวเขาจะปลอดภัยอย่างไร ถ้าให้เขามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่ร่วมคิด แต่อาจต้องมีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณ เช่น งบประมาณของ กอ.รมน. ตั้งไว้กว่าหมื่นล้านบาทที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นงบบุคลากรแค่ 50 กว่าล้านบาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือจำนวนมากไม่ชัดเจน งบภาคใต้ 36,000 ล้าน แยกเป็นงบบูรณาการหมื่นกว่าล้าน

“เวลามีเหตุ ประชาชนคือผู้ได้รับผลกระทบ ทำไมไม่มีส่วนร่วมกำหนดชะตากรรมของตัวเองได้บ้าง อย่างเหตุการณ์ในอิรัก ซึ่งทหารต่างประเทศเดินทางไป บางครั้งยังต้องไปจ้างคนท้องถิ่นมาดูแลรักษาความปลอดภัย ทำไมเราไม่ให้คนท้องถิ่นกำหนดว่าจะมีระบบที่ทำให้เขามีความสุขได้อย่างไร เชื่อว่าทุกคนในภาคใต้รู้ปัญหาดี วันนี้เราไปผูกทุกเรื่องไว้กับความมั่นคงหมด ทำให้บางครั้งปัญหาไม่ถูกแก้ กฎหมายแก้ไม่ได้ พอบอกจะไปจัดการภาคใต้ ถามว่าจัดการกับใคร กลับเป็นการยกระดับประชาชนเป็นศัตรูของรัฐไปหมดซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วง อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่าฝ่ายปกครอง ตำรวจ และพลเรือน รู้ปัญหา

ประชาธิปไตยเป็นการให้สิทธิ ให้ประชาชนใช้สติปัญญาของตนอย่างมีเสรีภาพ เอกภาพของเสียงส่วนใหญ่คือความมั่นคงของประชาชน แต่ตอนนี้ในภาคใต้ เป็นความมั่นคงของรัฐ ของทหาร หรือของฝ่ายข้าราชการ พอมีกอ.รมน. มีรัฐซ้อนรัฐขึ้นมา คือใช้องค์กรพิเศษ แต่จริงๆแล้วความมั่นคงของประชาชนที่ประชาชนเห็นร่วมกันโดยการใช้สติปัญญาที่เรียกว่าประชาธิปไตยนั้น จะมากำหนดความปลอดภัยของเขาเอง เพียงแต่ว่าต้องให้พุทธและมุสลิมเป็นโอกาสอยู่ร่วมกันให้ได้” พ.ต.อ.ทวีกล่าว