“วันนอร์” ประณามคนร้ายถล่ม ชรบ. พร้อมจี้ รบ. เร่งเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ

“วันนอร์” ประณามคนร้ายถล่ม ชรบ. พร้อมจี้ รบ. เร่งเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ ส่วนปมตั้งปธ.กมธ.ศึกษาแก้รธน. หนุน ใครก็ได้ที่เข้าใจการเมือง-เป็นคนนอก-ทุกฝ่ายสนับสนุน

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ให้สัมภาษณ์ ถึงเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มป้อมยาม จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา และชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา หมู่ที่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 15 คน ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ขอประณามการประทำ ไม่ว่าจะโดยผู้ใด กลุ่มใดที่ก่อเหตุทำลายชีวิต และความสงบ ทั้งนี้ อยากให้ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายที่ดูแลความสงบเรียบร้อบให้ติดตาม จัับกุมผู้ที่ทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว และอยากให้รัฐบาลเร่งเยียวยาทั้งผู้ที่เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ รวมถึงดูแลญาติพี่น้องให้ได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งพื้นที่ลำพะยานี้เป็นพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือ และตื่นต้วในการรักษาความสงบเรียบร้อยมาโดยตลอด แต่อาาจจะเพราะพื้นที่นี้สงบมานานจึงทำให้เกิดความเผลอเรอในการป้องกันเหตุไปบ้างก็เป็นไปได้ ช่องว่างจึงเกิดขึ้น จากนี้ก็คงจะต้องมีการระมัดระวังกันให้มากเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า ตนคิดว่า คนที่กระทำเป็นผู้ที่ต้องการทำลายกระบวนการเกิดสันติสุข ตนคิดว่า รัฐบาลต้องเดินหน้าต่อไปในเรื่องของการเจรจา และเรื่องการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในอาเซียน เราก็ได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี ต้องขอบคุณนายกฯมาเลเซียที่ยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการเจรจาให้เกิดความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรต้องไปคิดว่าต้องใช้กฎหมายพิเศษ กฎอัยการศึก ฯลฯ ซึ่งตนยังยืนยันว่ากฎหมายพิเศษเหล่านี้ยังต้องค่อยๆพิจารณายกเลิก กำลังที่ควรเสร้มเข้าไปในพื้นที่คือ กำลังจากคนในพื้นที่ ตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยตำรวจพิเศษ อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ควรถ่ายโอนอำนาจจากทหาร แล้วฝึกฝนให้เขา มอบอาวุะ ยุทโธปกรณ์ให้เขา ไปจนถึงเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยให้พวกเขา ส่วนทหาร ตนยังคิดว่ามีความจำเป็น แต่ต้องเข้าไปอยู่ในกองพัน หรือหน่วยงานที่มีอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับพื้นที่

เมื่อถามถึงกรณีที่เคยให้ข่าวเชิงสนับสนุนนานอภิสิทธิ์ เวชชชีวะ อดีตนายกฯ นั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 63 นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า กมธ.คณะดังกล่าว เป็นกมธ.วิสามัญ โดยคนนอกสามารถเข้ามาเป็นได้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์เป็นอดีตนายกฯ เป็นหัวกน้าพรรค และสนับสนุนแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ต้น ดังนั้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ แล้วทุกคนเห็นพ้องต้องกันตนก็ว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และตนอยากให้เริ่มต้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ความสามัคคีปรองดอง โดยอยากให้พรรคฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายรัฐบาล ส.ว. และพี่น้องประชาชนร่วมมือกันใช้โอกาสในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในทุกหมู่เหล่าให้ได้ ซึ่งการเอาคนที่ไม่ได้เป็นส.ส. เข้าใจการเมือง เป็นอดีตนายกฯ และทุกฝ่ายสนับสนุน น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นนิมิตรหมายที่ดี ทั้งนี้ ตนไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นนายอภิสิทธิ์เท่านั้น คนอื่นก็เป็นได้ เพื่อให้เกิดความสำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มจากการแก้ไขมาตราที่เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไข คือ มาตรา 256 ส่วนประเด็นอื่นๆที่จะแก้ไขค่อยมาคุยกัน