‘ยุทธพงศ์’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ หยุดต่อสัมปทานบีทีเอสสายสีเขียว ฮึ่มดึงดันเจอซักฟอก-ยื่นป.ป.ช.ฟันซ้ำ

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เพื่อคัดค้านไม่ให้นำเรื่องการขยายสัมปทานการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีที่เอสเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีเหตุผล 3ประการ คือ 1. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นบริการสาธารณะเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการบังคับใช้ตามกฏหมายในลักษณะเลือกปฏิบัติ เอื้อประโยชน์เอกชน เพราะคำสั่งดังกล่าวมีพิรุธ เหตุใดจึงออกคำสั่งหลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 มีผลใช้บังคับเพียง 30 วัน และเป็นเวลาหลังจากการเลือกตั้งใหญ่

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า 2. ผลจากการออกคำสั่งทำให้การที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) จะดำเนินการจัดจ้างการดำเนินโครงการถไฟฟ้าสายสีเชียวทั้งโครงการส่วนต่อขยายที่ 2 และโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต -อ่อนนุชและสนามกีฬาแห่งชาติ- สะพานตากสิน ที่จะหมดสัญญาลงในปี 2572 ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ และ 3. การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามข้อ 2 ที่ออกตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2562 ยังไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐ และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนหรือผู้ใช้บริการ ความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้บริการ การประหยัดค่าโดยสาร และการแบ่งปันผลประโยชน์ต่อภาครัฐอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

“ผมมายื่นหนังสือวันนี้ เพื่อบอกกล่าวความเสียหายและให้นายกฯ ยับยั้งไม่ให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวนี้ เพราะหากมีการดำเนินการเรื่องนี้ต่อ ผมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป รวมถึงจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากเป็นเรื่องของกฎหมายและเอื้อประโยชน์ให้กับบีทีเอส อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้นายกฯ จะอ้างว่าเป็นเรื่องเก่าไม่ได้เพราะเกิดในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 2 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเองก็ได้พยายามผลักดันเรื่องดังกล่าวนี่เข้าครม. ให้ได้ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน โดยสัญญาสัมปทานบีทีเอสยังเหลืออีกตั้ง 10 ปี เหตุใดจึงต้องเร่งรีบ จึงข้อสังเกตว่าที่ผ่านมาที่มีการออกมาตรา 44 ในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นการล็อคสเปก เนื่องจากบริษัทไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้ นอกจากนี่ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือทุกกระทรวงต่อไป เพื่อคัดค้านการต่อสัมปทานครั้งนี้” นายยุทธพงศ์ กล่าว