“สมคิด” คาดไตรมาส 4 ดีขึ้นหลังรบ.เริ่มตั้งตัว ฉายเศรษฐกิจปีหน้า ไทยเจอทั้งเสี่ยงและโอกาส

ที่โรงแรมแกรนด์ฮอลล์ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก หนังสือพิมพ์ “ประชาชาติธุรกิจ” จัดงานสัมมนา THAILAND 2020 #ก้าวข้ามพายุเศรษฐกิจ ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ THAILAND 2020 ตอนหนึ่งว่า ชีวิตเราผ่านวิกฤตการณ์มาเยอะ แต่โอกาสมักจะเกิดชั่วเวลานิดเดียว ถ้ามองทุกอย่างเลวร้ายไปหมดจะไม่เห็นอะไรเลย จะลำบาก แล้วอะไรคือโอกาสของเรา นั่นคือ วิกฤตต้มยำกุ้งทำให้ตนต้องเข้ามาอยู่ในการเมือง ถ้าไม่มีวิกฤตต้มยำกุ้งจะไม่ได้เข้ามาอยู่ เพราะไม่มีใครอยากทำจึงเอานายสมคิดเข้ามา ธุรกิจก็เหมือนกัน สิ่งที่เป็นลบต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งไว้ ขณะเดียวกันต้องมองหาโอกาส เช่น การจัดประชุมอาเซียนซัมมิต ไทยในฐานะเจ้าภาพทำหน้าที่ด้วยดี ไม่ใช่แค่รับคำชม สิ่งที่เห็นชัด อาเซียนกำลังทวีความสำคัญอย่างยิ่งยวดทั้งจากจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เพราะอาเซียนกำลังเป็นหัวใจของเอเชีย ประชากรหลายล้านคน เป็นคีย์ซัพพลายเชน จีดีพีเติบโตสูงสุด อาเซียนย่อมน่าสนใจ

นายสมคิดกล่าวว่า ในปี 2020 สิ่งที่เกิดขึ้น 1.ต้องทำให้ประเทศ Hight active เป็นตัวกลาง เชื่อมโยงภูมิภาค ไทยต้องมีบทบาท connecting the connectivity เพื่อให้เรามีบทบาทสูงในเวทีแห่งนี้ ในการประชุมอาเซียนซัมมิตสำคัญที่ตรงนี้ 2.จะมีบทบาทสูงได้ ต้องมีของดี คือ ต้องการเจริญเติบโตที่ดีพอ สี่ปีที่ผ่านมาเคยขึ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 4.8 จบที่ 4.1 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2561 แต่ในปีนี้โมเมนตั้มถดถอยด้วยหลายประการ กว่าจะตั้งรัฐบาลได้ครึ่งปี ตั้งแต่ประกาศเลือกตั้ง รักษาการกี่เดือน รัฐมนตรีเหลือกี่คน การขับเคลื่อนงบประมาณไม่ถึงเป้า งบประมาณปี 2563 ยังไม่ผ่านการเห็นชอบสภา กว่าจะใช้ได้มกราคม 2563 จึงต้องประคองเอาไว้ ขณะเดียวกันเกิดสงครามการค้า ทำให้ประเทศใหญ่ถดถอยลงทั้งสิ้น ประเทศที่ส่งออกสูงๆ โดนเยอะ ของเรา ตลาดใหญ่คือจีน อเมริกา กระทบทั้งสิ้น

นายสมคิดกล่าวว่า แต่ในไตรมาส 3 จะเริ่มตีกลับแม้ไม่เทกออฟรุนแรง แต่จะเริ่มตีกลับได้ รัฐบาลเริ่มตั้งตัวได้ มีการตั้งคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพื่อให้หลายอย่างหล่อลื่นไปได้ โครงการให้เดินหน้า อีอีซี มาบตาพุด งบประมาณกำลังลง ท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังเจอพายุ แต่ภายใต้พายุคือโอกาสที่กำลังจะเกิด เรามีมาตรการกระตุ้นพอสมควรประคองให้สภาวะนี้ผ่านไปได้ ไตรมาสสี่ งบประมาณที่ค้างไหลออกมา ทุกอย่างจะดีขึ้น ปี 2020 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย น่าจะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ ครม.เศรษฐกิจพยายามผลักดันสิ่งที่คั่งค้างออกมา เราต้องใช้จังหวะนี้ ในการลงทุน คีย์โปรเจ็กต์ของอีอีซีต้องเดิน มาบตาพุดผ่านไปแล้วต้องเริ่มลงทุน แหลมฉบัง ต้องเริ่มลงทุน สามสนามบินเริ่มกิจกรรมของเขาออกมา สร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศว่าอีอีซีเกิดแล้ว เรื่องของผังเมืองอีอีซีสำคัญมากขณะนี้ เอกชนมองว่าผังเมืองจะผ่าน ครม.เมื่อไหร่ สิ่งเหล่านี้ต้องประคองมันไม่ให้ล่ม ถ้าบอกว่าไม่ให้เกิด ไม่ได้ เพราะเป็นความอยู่รอดของประเทศไทย ที่บอกว่าทำให้ภาคตะวันออกเจริญ การพูดเช่นนี้ไม่มีสมองเลย

“ถ้าเรามองไปข้างหน้าเป็นเรื่องความท้าทาย ไม่ใช่มองว่าเผาหลอก เผาจริง พูดซ้ำซากมา 15 ปี ต้องมองว่าปีหน้าเกิดมาอย่างนี้ทำอย่างไรให้แข็งแรง การเมืองเราต้องดี ถ้าการเมืองไม่ดีทุกอย่างไม่เดิน ปี 2020 ไม่ใช่เผาหลอกและเผาจริงจะมีทั้งความเสี่ยงและโอกาส ต้องรอบรู้กว่านี้ เก็บข้อมูล ร่วมมือกัน ออกสื่อความให้ทุกอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฮ่องกงแบ่งสีแล้ว เรา export สิ่งที่ไม่ควร export เราต้องไม่ให้สถานการณ์กลับไปสู่อดีต ช่วงเวลานี้สำคัญมาก ดิจิทัล อีอีซี การประคอง การเจริญเติบโตเศรษฐกิจ ทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีบทบาทเด่นภายในภูมิภาค ไมใช่รัฐบาลแค่ 34 คนเท่านั้นที่จะทำ แต่คนทั้งประเทศที่จะทำ” นายสมคิดกล่าว