เดอะ อีโคโนมิกไทมส์ ของอินเดีย รายงานว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.62) ทางการกรุงนิวเดลีประกาศอย่างเป็นทางการว่า ขณะนี้สภาพอากาศในเมืองหลวงแห่งนี้กำลังเผชิญวิกฤต “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข” ซึ่งมลพิษทางอากาศที่สูงเกินค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ทัศนวิสัยที่แย่ลงทำให้ส่งผลกระทบต่อเส้นทางบินของอินเดีย โดยกระทบต่อเที่ยวบินกว่า 30 เที่ยว

ทั้งนี้ สัปดาห์ก่อนในอินเดียมีเทศกาลสำคัญอย่าง “ดิวาลี” (Diwali) หรือ เทศกาลแห่งแสงสว่าง เพื่อบูชาพระนางลักษมี ซึ่งได้มีการจุดตะเกียง ปล่อยโคมลอย และการจุดประทัดต่างๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาล จึงทำให้ค่ามลพิษทางอากาศรุนแรงขึ้น

ขณะที่รัฐบาลประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาสภาวะอากาศแย่ในกรุงนิวเดลีแล้ว ได้แก่ สั่งห้ามการก่อสร้างในช่วงนี้, งดการเรียนการสอนจนถึงวันที่ 8 พ.ย.ที่จะถึงนี้ รวมถึงประกาศสั่งให้รถที่วิ่งบนถนนต้องสลับวิ่งวันคู่-วันคี่

นอกจากนี้ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท H&M ของสวีเดน สำนักงานใหญ่ในกรุงนิวเดลี ได้ส่งอีเมล์ไปถึงพนักงานให้รับทราบโดยทั่วกันว่า บริษัทมีนโยบายอนุญาตให้พนักงานสามารถเข้างานสายกว่าปกติ ตั้งแต่วัน 4 พ.ย. -15 พ.ย. ที่จะถึงนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. เพื่อให้แน่ใจว่าสุขภาพของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ขณะที่ มีรายงานว่าโฆษกของ H&M ประจำนิวเดลี ระบุว่า กฎระเบียบยืดหยุ่นดังกล่าวนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกหากสภาพอากาศย่ำแย่ลง โดยจะอนุญาตให้พนักงานของ H&M สามารถหยุดงานได้ชั่วคราวจนกว่าค่าของมลพิษทางอากาศจะดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมี พนักงานของ “Coca-Cola” ในนิวเดลี ที่ออกกฎยืดหยุ่นเวลาเข้า-ออกงานได้ตามสภาพอากาศ หรือทำงานได้จากที่บ้านเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งบริษัทจะประเมินตามสภาพอากาศแบบวันต่อวัน

สำหรับเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์รายใหญ่ของสหรัฐอย่าง “KFC” ได้อนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ จนถึงวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.62) ส่วนบริษัทเนสท์เล่ ในเมืองคุร์เคาน์ ตั้งอยู่ในรัฐหรยาณาของอินเดีย ได้ประกาศในวันนี้เช่นเดียวกันว่า บริษัทจะเตรียมรับมือกับสภาพแวดล้อมที่อากาศเป็นพิษในอินเดียที่กำลังขยายเป็นวงกว้าง ด้วยการสั่งติดตั้งเครื่องกรองอากาศ และเพิ่มจำนวนต้นไม้ภายในบริษัทอีกด้วย