ชื่นมื่น ไทย-จีน เอ็มโอยู 3ฉบับ “บิ๊กตู่” มอบสุภาษิตไทย มดน้อยก็ช่วยพยาราชสีห์ได้!

“ไทย-จีน” เซ็นเอ็มโอยูเรือเหล็ก-เรือหางยาว 3 ฉบับ “นายกจีน” หวัง RCEP สำเร็จปีหน้า ด้าน “บิ๊กตู่” มอบสุภาษิตไทย บอกมดน้อยบางครั้งช่วยพยาราชสีห์-คชสารได้

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล

“ไทย-จีน” เซ็นเอ็มโอยูเรือเหล็ก-เรือหางยาว 3 ฉบับ “นายกจีน” หวัง RCEP สำเร็จปีหน้า ด้าน “บิ๊กตู่” มอบสุภาษิตไทย บอกมดน้อยบางครั้งช่วยพยาราชสีห์-คชสารได้

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้การต้อนรับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ก่อนมีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ จากนั้นได้มีหารือข้อราชการเต็มคณะ ที่ตึกภักดีบดินทร์

จากนั้นเวลา 11.45 น.ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายหลี่ เค่อเฉียง ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความเข้าใจระหว่างไทย-จีน รวม 3 ฉบับ ได้แก่ 1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิชาการและนวัตกรรม 2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสาร ระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักข่าวซินหัว และ 3.บันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท เอสซีจี จำกัด มหาชน กับศูนย์ความร่วมมือทางนวัตกรรมแห่งสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน จากนั้นได้เปิดแถลงข่าวร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงว่า ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ซึ่งเป็นการเยือนที่เกิดขึ้นในปีที่มีความสำคัญ เป็นปีที่ไทยได้จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงเป็นประธานอาเซียน ขณะที่จีนก็เฉลิมฉลองการครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในสภาวะความผันแปรของสภาวะเศรษฐกิจโลก ตนและนายกรัฐมนตรีหลี่ ได้หารือกันอย่างกว้างขวาง ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนสถานการณ์ในภูมิภาคและในโลก

“ผมและท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ เห็นความสำคัญของการส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะระหว่างยุทธศาสตร์และกรอบความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ.2025 (MPAC 2025) และ ACMECS เป็นต้น กับข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน ซึ่งก็คล้องกับยุทธศาสตร์ “Connecting the Connectivities” ที่ไทยเสนอ เรายังเห็นพ้องที่จะเชื่อมระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของไทยกับกรอบความร่วมมือเขตอ่าวกวางตุ้ง –มาเก๊า – ฮ่องกง (จีบีเอ) ของจีนผ่านโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งกลไกหารือระดับสูงระหว่างกันเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ ผมได้เชิญชวนให้จีนขยายการลงทุนในไทย ขณะเดียวกัน ก็ได้ฝากให้นายกรัฐมนตรีหลี่ ช่วยดูแลภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในจีน และดูแลเรื่องสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวและยางพารา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ย้ำความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะปรับปรุงมาตรฐานการให้ความคุ้มครองและดูแลนักท่องเที่ยว ขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ได้แสดงความพร้อมที่จะถ่ายทอดแนวปฏิบัติที่ดีของจีนในเรื่องการขจัดความยากจนให้ไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเมืองอัจฉริยะ เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 ในด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันให้ส่งเสริมความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญกรรมข้ามชาติ และจะสนับสนุนการดำเนินความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายการเยือนไทยของท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ฯ และการลงนามความตกลงต่าง ๆ ระหว่างทั้งสองฝ่ายเมื่อสักครู่ สะท้อนถึงพัฒนาการของความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย – จีน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ ประชาชนและภูมิภาคโดยรวม

ส่วนนายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวขอบคุณที่ทางการไทยให้การต้อนรับอย่างมีน้ำใจ ซึ่งวันนี้ได้หารือกันหลายประเด็นจนประสบความสำเร็จตามที่นายกรัฐมนตรีไทยได้แจ้งให้ทุกคนทราบแล้ว พวกเราได้บรรลุการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจด้านการเมือง โดยจีนพร้อมผลักดันไทยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการอีอีซี รวมถึงส่งเสริมเสริมความร่วมมือด้านการค้าข้าว อีคอมเมิร์ซ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งจีนมีศักยภาพในการส่งเสริมการพัฒนาของไทยเป็นอย่างมาก โดยช่วงที่มาเยือนประเทศไทย ได้เห็นเรือพาณิชย์วิ่งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก ทำให้คิดว่าหากทางการไทย-จีน ร่วมมือกัน จะเปรียบเสมือนเป็นเรือใหญ่ วิ่งเร็ว วิ่งไกลอย่างมั่นคง ซึ่งในอนาคตจะต้องวิ่งให้เร็วเหมือนเรือหางยาวอีกด้วย

นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวต่อว่า ขอแสดงความยินดีกับไทยอีกครั้งที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ขณะที่เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมผู้นำ 15 ประเทศผ่านเวทีอาร์เซ็ปต์ (RCEP) และได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะเห็นได้ว่าในภูมิภาคนี้ เรามีประชากรมากที่สุด มีศักยภาพในการพัฒนามากที่สุด และมีความพร้อมในการสร้างเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เราจะร่วมมือกันในการรักษาความมั่นคงเพื่อพัฒนาภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนต่อไป ซึ่งการหาแสวงหาความร่วมมือในเวที RCEP ต้องใช้ความขยันหมั่นเพียรและอดทน การเจรจาระหว่างกันก็เหมือนการเตะบอลเข้าประตู ซึ่งขณะนี้บอลกำลังจะเข้าประตูแล้ว ตัวเองจึงได้ย้ำกับพล.อ.ประยุทธ์ไปว่า เราต้องใช้ความพยายามต่อไป ต้องผลักดันให้ลูกบอลตกลงสู่พื้น เพื่อเข้าประตูไปในเร็ววัน และเรามั่นใจว่าปีหน้า RCEP จะประกาศข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ และคิดว่าบอลที่เตะเข้าประตูไปแล้วจะเปิดกว้างไปสู่ทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย

นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวด้วยว่า จีนยังคงแสวงหาความร่วมมือกับไทยต่อไป สร้างมิตรภาพระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เราจะเคารพบทบาทการเป็นศูนย์กลางอาเซียนของไทย ซึ่งได้พูดไปตั้งแต่แรกแล้วว่า จีนกับไทยได้ร่วมพายเรือลำเดียวกัน ถือเป็นพี่น้องกัน มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นต่อกัน ต่อไปเราจะมุ่งไปข้างหน้าที่มีอนาคตกว้างไกลรออยู่ โดยอาศัยหลักการที่มีความเสมอภาคต่อกัน เป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบรับทันทีว่า “โอเค เราเป็นเรือใหญ่ที่ต้องวิ่งให้เร็วเหมือนเรือหางยาวต่อไป”

ทั้งนี้ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากสุภาษิตจีนให้กับหลี่ เค่อเฉียง ว่า “มดน้อยบางครั้งก็สามารถช่วยพญาราชสีห์ และพญาคชสารได้ ซึ่งนี่คือสุภาษิตไทยที่ขอฝากไว้ และอยากฟังสุภาษิตจีนบ้าง ซึ่งนายหลี่อ เค่อ เฉียงกล่าวว่า ตนได้พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าจีนกับไทยได้นั่งเรือลำเดียวกัน ซึ่งทั้งจีนและไทยมีความเหมือนกันซึ่งถ้าดูจากประชากรและสภาพทางการเมือง การต่างประเทศ ก็ตรงกัน ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เราจึงต้องมุ่งไปข้างหน้า เพื่อให้มีอนาคตที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น เราต้องอาศัยหลักการความเสมอภาคต่อกันเอื้อประโยชน์ต่อกัน เป็นหุ้นส่วนที่ดี และมีความเจริญก้าวหน้าด้วยกัน แม่น้ำเจ้าพระยาก็สามารถเชื่อมต่อไปถึงประเทศจีนได้ซึ่งทั้งสองประเทศก็จะเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวตอบว่า จะเป็นเรื่องเหล็ก หรือเรือหางยาวเราก็จะไปด้วยกัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีจีนและคณะ ก่อนที่นายหลี่ เค่อเฉียง พร้อมคณะจะเดินทางกลับ

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้การต้อนรับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ก่อนมีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ จากนั้นได้มีหารือข้อราชการเต็มคณะ ที่ตึกภักดีบดินทร์

จากนั้นเวลา 11.45 น.ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายหลี่ เค่อเฉียง ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความเข้าใจระหว่างไทย-จีน รวม 3 ฉบับ ได้แก่ 1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิชาการและนวัตกรรม 2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสาร ระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักข่าวซินหัว และ 3.บันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท เอสซีจี จำกัด มหาชน กับศูนย์ความร่วมมือทางนวัตกรรมแห่งสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน จากนั้นได้เปิดแถลงข่าวร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงว่า ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ซึ่งเป็นการเยือนที่เกิดขึ้นในปีที่มีความสำคัญ เป็นปีที่ไทยได้จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงเป็นประธานอาเซียน ขณะที่จีนก็เฉลิมฉลองการครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในสภาวะความผันแปรของสภาวะเศรษฐกิจโลก ตนและนายกรัฐมนตรีหลี่ ได้หารือกันอย่างกว้างขวาง ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนสถานการณ์ในภูมิภาคและในโลก

“ผมและท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ เห็นความสำคัญของการส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะระหว่างยุทธศาสตร์และกรอบความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ.2025 (MPAC 2025) และ ACMECS เป็นต้น กับข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน ซึ่งก็คล้องกับยุทธศาสตร์ “Connecting the Connectivities” ที่ไทยเสนอ เรายังเห็นพ้องที่จะเชื่อมระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของไทยกับกรอบความร่วมมือเขตอ่าวกวางตุ้ง –มาเก๊า – ฮ่องกง (จีบีเอ) ของจีนผ่านโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งกลไกหารือระดับสูงระหว่างกันเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ ผมได้เชิญชวนให้จีนขยายการลงทุนในไทย ขณะเดียวกัน ก็ได้ฝากให้นายกรัฐมนตรีหลี่ ช่วยดูแลภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในจีน และดูแลเรื่องสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวและยางพารา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ย้ำความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะปรับปรุงมาตรฐานการให้ความคุ้มครองและดูแลนักท่องเที่ยว ขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ได้แสดงความพร้อมที่จะถ่ายทอดแนวปฏิบัติที่ดีของจีนในเรื่องการขจัดความยากจนให้ไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเมืองอัจฉริยะ เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 ในด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันให้ส่งเสริมความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญกรรมข้ามชาติ และจะสนับสนุนการดำเนินความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายการเยือนไทยของท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ฯ และการลงนามความตกลงต่าง ๆ ระหว่างทั้งสองฝ่ายเมื่อสักครู่ สะท้อนถึงพัฒนาการของความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย – จีน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ ประชาชนและภูมิภาคโดยรวม

ส่วนนายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวขอบคุณที่ทางการไทยให้การต้อนรับอย่างมีน้ำใจ ซึ่งวันนี้ได้หารือกันหลายประเด็นจนประสบความสำเร็จตามที่นายกรัฐมนตรีไทยได้แจ้งให้ทุกคนทราบแล้ว พวกเราได้บรรลุการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจด้านการเมือง โดยจีนพร้อมผลักดันไทยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการอีอีซี รวมถึงส่งเสริมเสริมความร่วมมือด้านการค้าข้าว อีคอมเมิร์ซ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งจีนมีศักยภาพในการส่งเสริมการพัฒนาของไทยเป็นอย่างมาก โดยช่วงที่มาเยือนประเทศไทย ได้เห็นเรือพาณิชย์วิ่งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก ทำให้คิดว่าหากทางการไทย-จีน ร่วมมือกัน จะเปรียบเสมือนเป็นเรือใหญ่ วิ่งเร็ว วิ่งไกลอย่างมั่นคง ซึ่งในอนาคตจะต้องวิ่งให้เร็วเหมือนเรือหางยาวอีกด้วย

นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวต่อว่า ขอแสดงความยินดีกับไทยอีกครั้งที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ขณะที่เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมผู้นำ 15 ประเทศผ่านเวทีอาร์เซ็ปต์ (RCEP) และได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะเห็นได้ว่าในภูมิภาคนี้ เรามีประชากรมากที่สุด มีศักยภาพในการพัฒนามากที่สุด และมีความพร้อมในการสร้างเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เราจะร่วมมือกันในการรักษาความมั่นคงเพื่อพัฒนาภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนต่อไป ซึ่งการหาแสวงหาความร่วมมือในเวที RCEP ต้องใช้ความขยันหมั่นเพียรและอดทน การเจรจาระหว่างกันก็เหมือนการเตะบอลเข้าประตู ซึ่งขณะนี้บอลกำลังจะเข้าประตูแล้ว ตัวเองจึงได้ย้ำกับพล.อ.ประยุทธ์ไปว่า เราต้องใช้ความพยายามต่อไป ต้องผลักดันให้ลูกบอลตกลงสู่พื้น เพื่อเข้าประตูไปในเร็ววัน และเรามั่นใจว่าปีหน้า RCEP จะประกาศข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ และคิดว่าบอลที่เตะเข้าประตูไปแล้วจะเปิดกว้างไปสู่ทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย

นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวด้วยว่า จีนยังคงแสวงหาความร่วมมือกับไทยต่อไป สร้างมิตรภาพระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เราจะเคารพบทบาทการเป็นศูนย์กลางอาเซียนของไทย ซึ่งได้พูดไปตั้งแต่แรกแล้วว่า จีนกับไทยได้ร่วมพายเรือลำเดียวกัน ถือเป็นพี่น้องกัน มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นต่อกัน ต่อไปเราจะมุ่งไปข้างหน้าที่มีอนาคตกว้างไกลรออยู่ โดยอาศัยหลักการที่มีความเสมอภาคต่อกัน เป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบรับทันทีว่า “โอเค เราเป็นเรือใหญ่ที่ต้องวิ่งให้เร็วเหมือนเรือหางยาวต่อไป”

ทั้งนี้ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากสุภาษิตจีนให้กับหลี่ เค่อเฉียง ว่า “มดน้อยบางครั้งก็สามารถช่วยพญาราชสีห์ และพญาคชสารได้ ซึ่งนี่คือสุภาษิตไทยที่ขอฝากไว้ และอยากฟังสุภาษิตจีนบ้าง ซึ่งนายหลี่อ เค่อ เฉียงกล่าวว่า ตนได้พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าจีนกับไทยได้นั่งเรือลำเดียวกัน ซึ่งทั้งจีนและไทยมีความเหมือนกันซึ่งถ้าดูจากประชากรและสภาพทางการเมือง การต่างประเทศ ก็ตรงกัน ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เราจึงต้องมุ่งไปข้างหน้า เพื่อให้มีอนาคตที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น เราต้องอาศัยหลักการความเสมอภาคต่อกันเอื้อประโยชน์ต่อกัน เป็นหุ้นส่วนที่ดี และมีความเจริญก้าวหน้าด้วยกัน แม่น้ำเจ้าพระยาก็สามารถเชื่อมต่อไปถึงประเทศจีนได้ซึ่งทั้งสองประเทศก็จะเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวตอบว่า จะเป็นเรื่องเหล็ก หรือเรือหางยาวเราก็จะไปด้วยกัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีจีนและคณะ ก่อนที่นายหลี่ เค่อเฉียง พร้อมคณะจะเดินทางกลับ