นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังจากประชุมหารือร่วมกับ นายวิลเบอ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ พร้อมคณะ โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย โดยเป็นวงประชุมเล็ก ในการประชุมอินโด-แปซิฟิก บิซิเนส ฟอรัม ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า สำหรับการหารือกับสหรัฐในการประชุมอินโด-แปซิฟิกฯ มีประเด็นที่สหรัฐอยากให้ไทยช่วยอำนวยความสะดวก ได้แก่ 1. เรื่องเกี่ยวกับพลังงานโดยเป็นไปได้หรือไม่ที่ไทยจะมีการซื้อก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลเอ็นจี) จากสหรัฐ 2. เรื่องการเงิน อยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดกว้างให้ธนาคารจากสหรัฐและต่างชาติมากขึ้น รวมทั้งอยากให้สมาคมธนาคารไทยมีสมาชิกธนาคารต่างชาติเข้าร่วมด้วย 3. อยากให้ไทยเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพราะที่ผ่านมามีการลงทุนน้อยและการดำเนินการล่าช้า และ 4. อยากให้ผลักดันด้านดิจิทัลเพื่อความโปร่งใส ซึ่งปัจจุบันไทยมีการเดินหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องทั้งการดำเนินการด้านรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ การประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งในอาเซียน อยู่ระหว่างการพัฒนาอาเซียนซิงเกิลวินโดว์ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบดิจิทัลระหว่างกันสร้างความโปร่งใส และจะช่วยหนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลแห่งชาติให้สามารถทำการค้าระหว่างกันผ่านระบบอิเล็กทรินิกส์ได้

นายสนั่น กล่าวว่า ในส่วนประเด็นการระงับสิทธิการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป(จีเอสพี ของสหรัฐกับสินค้าไทยนั้น นายรอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ระบุว่าน่าจะมีผลกระทบกับไทยไม่มากนัก และยังไม่มีผลบังคับใช้ทันทีจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2563 หรือยังมีเวลาอีกราว 6 เดือน ซึ่งหากไทยได้รับผลกระทบหรือมีปัญหาในส่วนใดจากการระงับสิทธิจีเอสพีดังกล่าวยังสามารถที่จะเจรจากันได้