ดีเอสไอเตรียมแย้งหลังอัยการไม่สั่งฟ้อง ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ ไม่มีเจตนาฟอกเงินขายที่ดินธรรมกาย

แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษได้มีความเห็นไม่ฟ้องนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหาของดีเอสไอ ในคดีสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ที่ได้มาจากการยักยอกฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น โดยความเห็นพร้อมสำนวนคดีได้ถูกส่งมายังสำนักงานอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และขณะนี้ได้ส่งต่อไปให้กองความเห็นแย้งตรวจสอบ เบื้องต้นอัยการฝ่ายคดีพิเศษอ้างว่านายอนันต์ไม่มีเจตนาฟอกเงิน จึงมีความเห็นแย้งกับดีเอสไอ สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ขณะที่ดีเอสไอกำลังเร่งตรวจสอบเพื่อทำความเห็นแย้ง เนื่องจากพฤติการณ์ในการซื้อขายที่ดินดังกล่าวนั้น เป็นการถือครองที่ดินแทนพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมื่อขายที่ดินได้แล้วนายอนันต์ก็ไม่ได้โอนเงินจากการขายที่ดินเต็มจำนวนไปให้พระธัมมชโย แต่หักเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้เอง ทั้งนี้กองความเห็นแย้งพิจารณาเสร็จ จะเสนอไปยังพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้พิจารณา หากไม่มีความเห็นแย้งคดีก็จะยุติลงด้วยการสั่งไม่ฟ้องในชั้นอัยการ แต่หากอธิบดีดีเอสไอมีความเห็นแย้ง ยืนยันว่าสมควรสั่งฟ้องนายอนันต์ สำนวนจะถูกส่งไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาด โดยผลการพิจารณาของอัยการสูงสุดจะเป็นที่สุดเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวเป็นผลมาจากดีเอสไอขยายผลการสอบสวน คดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด กับพวก ร่วมฉ้อโกงเงินสหกรณ์ฯนับหมื่นล้านบาท โดยปรากฏเส้นทางการเงินว่า นายศุภชัยนำเงินบางส่วนไปซื้อที่ดินเนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวาที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ใกล้วัดพระธรรมกาย ก่อนขายให้ต่อนายอนันต์ในราคา 93 ล้านบาท ทั้งที่ที่ดินมีราคาประเมินถึง 281 ล้านบาท จากนั้นนายอนันต์นำไปขายต่อให้บุคคลอื่นราคา 492 ล้านบาท ต่อมานำเงิน 303 ล้านบาทบริจาคให้มูลนิธิคุณยายจันทร์ ขนนกยูง ที่มีพระธัมมชโยเป็นองค์อุปถัมภ์ และก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆรวมถึงอาคารบุญรักษาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน