“คารม”เปรียบคนย้ายพรรคเหมือนผัวเมียหย่ากัน ย้ำแม้เป็นพรรคเกิดใหม่ แต่ให้โอกาสคน

“คารม” เปรียบคนย้ายพรรคอนค.เหมือนผัวเมียหย่ากัน แจง อยู่ระหว่างซาวน์เสียงจัดการ 7 ส.ส.โหวตสวนมติพรรค เชื่อมั่น พรรคไม่ถูกยุบ คดีหุ้นวี-ลัก เป็นของ “ธนาธร” คนเดียว

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงประเด็นที่อดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ลาออก ว่า ตนยังมั่นใจว่า การที่มีคนย้ายพรรค ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ บังเอิญเป็นพรรคอนาคตใหม่ จึงดูผิดปกติไปเยอะ แต่บางครั้งเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิด หรืออาจจะไม่ได้ตำแหน่งตามที่เป็นข่าวไปแล้ว เขาก็ย้ายไป แต่การมาให้ร้ายพรรคนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่ระบุว่า พรรคมีการแบ่งชนชั้น ตนยืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่ให้โอกาสคน ตนเองมาจากกลุ่มการเมืองภาคประชาชน และสังกัดพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย เมื่อย้ายมาตนไม่เคยให้ร้ายพรรคเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นก็เหมือนผัวเมียที่หย่ากัน แต่การจะไปล้มสถาบันครอบครัวนั้นทำไม่ได้

เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่ยังแข็งแรงอยู่หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่เพิ่งเกิดขึ้น และยังไม่เคยเป็นรัฐบาล อุปสรรคที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะอัตลักษณ์ของพรรคที่ไม่ได้ใช้เงินในการรวมเสียง แต่มาเพราะอุดมการณ์และการเปิดโอกาส วันนี้พรรคจึงได้เรียนรู้ ส่วนการมีความกังวลก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราเป็นส.ส. และอยากให้พรรคมีความมั่นคงต่อไป ซึ่งอย่างไรก็ตาม คดีเรื่องหุ้นวี-ลักที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ไม่เกี่ยวกับการยุบพรรค แต่เป็นเรื่องของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

ส่วนเรื่องการสอบจริยธรรม ส.ส. ในเรื่องการโหวตสวนมติพรรคนั้น นายคารม กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการจริยธรรมพรรคกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ทั้งหมด 7 คน ซึ่งเป็นสิทธิของกรรมาการบริหารพรรค (กก.บห.) เบื้องต้นก็จะฟังความเห็นส.ส. เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นว่า มติที่จะออกมา จะต้องทำให้พรรคเสียหายน้อยที่สุด และไม่ขัดต่อหลักการของพรรค ส่วนตัวก็ไม่อยากให้ร้ายใคร แต่ใครทำอะไรต้องรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นก็เหมือนอย่างที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ได้พูดไว้ว่า ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะมีพรรคไว้ทำไม เพราะไม่เช่นนั้นวันหลังใครก็ฝ่าฝืนมติพรรคได้