‘อนุทิน’ วอนอย่าโยง สหรัฐตัดจีเอสพี กับแบน 3 สารพิษ ย้ำมี​ผล​ 1 ธ.ค.​

‘อนุทิน’ วอนอย่าโยง สหรัฐตัดจีเอสพี กับแบน 3 สารพิษ ย้ำมี​ผล​ 1 ธ.ค.​

เมื่อวันที่​ 29​ ตุลาคม​ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในช่วงเช้าก่อนการประชุม ครม.ในวันเดียวกันนี้ ว่ายังไม่ทราบว่านายกฯมีประเด็นอะไรจะหารือ แต่หากเรื่องใดมีปัญหาก็คงจะหยิบยกมาพูดคุยกัน

เมื่อถามว่าจะมีการหารือกรณีที่สหรัฐตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรทางการค้า (จีเอสพี) หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหารือกัน แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวล ส่วนในเรื่องการแบน 3 สารพิษนั้น เราทำด้วยความเป็นห่วงสุขภาพประชาชนและอนาคตของชาติ เพื่อไม่ให้มีสารปนเปื้อน เพราะจากการพิสูจน์ 3 สารพิษ​ ไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ และไม่มีอะไรที่เราต้องไปกลัว รวมถึงอย่าเอาเรื่องจีเอสพีไปผูกโยงกับเรื่องสารพิษเพราะเป็นคนละเรื่อง สำหรับการแบนสารพิษนั้นคิดว่านายกฯคงทราบแล้ว และตนก็ได้รายงานผ่านทางไลน์ของ ครม.ไปก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มเกษตรกรไปยื่นศาลปกครองให้ระงับการแบน 3 สารพิษ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยนำข้อเท็จจริงมาแสดง และยืนยันว่าการแบน 3 สารพิษจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม​ เนื่องจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีมติไปแล้ว ไม่สามารถยืดหรือผ่อนปรนได้  ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะผิดพลาดไปหมด อีกทั้งคณะกรรมการดังกล่าวก็อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะกิจ ซึ่งมีขั้นตอนในการดำเนินการทุกอย่าง

เมื่อถามอีกว่า​เป็นไปได้หรือไม่ที่จะขยายกรอบเวลาการแบนสารพิษจากที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ธันวาคม​นี้ไปอีก 6 เดือน นายอนุทินกล่าวย้ำว่า​ ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว นอกจากว่าจะมีการเขียนในบันทึกการประชุม แต่คิดว่าน่าจะมีคณะกรรมการโต้แย้งอีก ซึ่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ระบุชัดเจนว่าคณะกรรมการมีมติเป็นเสียงข้างมากในการแบนสารพิษ พร้อมทั้งระบุว่าสารพิษดังกล่าวไม่ได้อยู่เฉพาะแค่บนดินเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมเข้าไปยังผลผลิตของสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ ซึ่งตรงนี้คือเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการลงมติคัดค้านการใช้สารพิษ