อดีตผู้สมัคร-สมาชิก ‘อนาคตใหม่’ ยื่นใบลาออกแล้ว อ้างพรรคไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์สวนทางกัน

อดีตผู้สมัคร-สมาชิก ‘อนาคตใหม่’ ยื่นใบลาออกแล้ว อ้างพรรคไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์สวนทางกัน

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ พร้อมอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 30 คน และสมาชิกพรรคกว่า 90 คน ทยอยเข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง

โดยนายนิพนธ์กล่าวว่า เราต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่า ความคิด อุดมการณ์ของเรากับพรรคอนาคตใหม่มีความแตกต่างกัน แต่เรายังรัก ความปรารถนาดีพรรคอนาคตใหม่ และศรัทธาในนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้มีความคิดร้ายต่อกัน เราไม่ได้มีการทำร้ายพรรค หรือทำให้พรรคสั่นสะเทือน

ทั้งนี้ เราเข้าร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ในวันที่พรรคไม่ได้มีชื่อเสียง เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งพรรค แต่วันนี้เป็นพรรคที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับจากภาคส่วนต่างๆ แต่เมื่อเรามีความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคพวกเราจึงขอเดินออกมาเอง และก็ไม่มีอะไรค้างคาใจหรือบาดหมางกัน ส่วนเส้นทางทางการเมืองหลังจากนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองอื่นติดต่อมา พวกเราคงจะกลับบ้านตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน

เมื่อถามว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ทางกลุ่มลาออก นายนิพนธ์กล่าวว่า เรามีความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคในปัจจุบัน ทั้งที่เราเข้ามาอย่างมีความตั้งใจจริง มุ่งหวังจะทำงานการเมืองให้เกิดประโยชน์ มีการสมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ แต่วันนี้เราจำเป็นต้องถอยออกเพราะพรรคอนาคตใหม่ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งมีความแตกต่างกัน

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าลาออกเพราะไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะสมาชิกทุกคนไม่มีใครต่อรองหรือเรียกร้องเรื่องนี้ แต่เราต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่าตรงนี้เป็นแค่ส่วนย่อยที่ทำให้เกิดปัญหา แต่เรื่องสัญญาและสัจจะของผู้นำนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราไม่มีสัจจะในฐานะผู้นำแล้ว เราจะนำประชาชนทั้งประเทศให้ไปสู่จุดมุ่งหมายตามนโยบายได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการต่อรองตำแหน่งแต่อย่างใด

“ในส่วนของการให้สัญญาผมเคยให้ข่าวหลายครั้งแล้วว่า การต่อรองตำแหน่งไม่ได้เกิดจากการที่พวกเราเรียกร้องหรือร้องขอ แต่เป็นสัญญาจากพรรคที่ให้สัญญาจากที่ประชุม เมื่อคำมั่นสัญญาต่างๆ เหล่านั้นมีเรื่องอื่นทับถมขึ้นมาเรื่อยๆ เราจึงรู้สึกว่าผู้นำของเราไม่รักษาคำพูด เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ยังรักษาคำพูดไม่ได้แล้วจะไปทำนโยบายที่ลงไปสู่ประชาชนอีก 60 ล้านคนได้อย่างไร” นายนิพนธ์กล่าว    

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ใดที่ทำให้รู้สึกว่าพรรคอนาคตใหม่ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งไม่เหมือนกัน นายนิพนธ์กล่าวว่า เรื่องการอภิปรายงบประมาณ หรือตัวคนของพรรค หรือตัว ส.ส.ของพรรคที่ตกเป็นข่าว และวันนี้พรรคยังไปโจมตีผู้สมัคร ซึ่งตนมองว่าพรรคการเมืองเปรียบเสมือนพ่อแม่ ส.ส.ก็เปรียบเสมือนลูก เมื่อลูกออกไปนอกบ้านแล้วคนในสังคมบอกว่าลูกท่านสร้างความเดือดร้อน ท่านจะฟันธงว่าลูกทำผิด หรือจะดึงลูกออกจากจุดขัดแย้งแล้วมาว่ากล่าวตักเตือนลูก ทำไมไม่ว่ากล่าวกันในพรรค ซึ่งทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้วเรื่องกระแสการขับไล่ต่างๆ มากมาย

เมื่อถามว่าทำไมถึงมาดำเนินการเรื่องนี้ในช่วงที่พรรคอนาคตใหม่อยู่ในช่วงขาลง นายนิพนธ์กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นช่วงขาลงของพรรค เพราะยังมีสมาชิกที่สนับสนุนพรรคและทางกลุ่มที่ลาออกก็ยังให้การสนับสนุน และเฝ้าดูการนำนโยบายลงไปสู่การปฏิบัติ