เผยแพร่ |
---|
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ(ปช.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญํติ(พ.ร.บ.)รายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ว่า วันที่ 28 ตุลาคมนี้ ได้เชิญ 10 หน่วยงานให้ข้อมูลและคำชี้แจง อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน, กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เป็นต้น
โดยเมื่อเสร็จกลุ่มนี้แล้ว กมธ.ฯก็เตรียมเรียกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นกลุ่มที่ 2 ส่วนที่มีคำถามว่า หากกมธ.ฯเห็นว่างบฯจุดใดควรตัดและสมควรจะนำงบฯนั้นไปเติมจุดอื่นนั้น กมธ..ฯไม่มีสิทธิ์จะนำงบฯที่ตัดไปเพิ่มที่กระทรวงหรือหน่วยงานใด เมื่อตัดเสร็จต้องนำไปรวบรวมและส่งให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อไปปรับปรุงใส่ตรงที่เห็นว่าสมควร แต่ต้องไม่ไปใส่ตรงที่กมธ.ฯได้ท้วงติงไว้ ว่า เกินไป ตรงนี้ไม่จำเป็น ครม.ต้องดูตรงนี้ด้วย ต่อจากนั้นถึงนำเข้ามาในกมธ.ฯในรอบสุท้ายอีกครั้งเพื่อให้งบตรง 3.2 ล้านล้านบาท
“กมธ.ฯ 64 คนมีหน้าที่จัดการ ปรับปรุงดูแลงบฯ ตัดได้แต่ไม่สามารถนำไปเติมตรงจุดใดได้ คนที่ต้องนำไปปรับปรุงเติมงบฯให้ตรงคือ ครม.เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งงบฯที่้ต้องปรับปรุงตามที่มีการอภิปรายเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เช่น งบกลางฯที่ไม่เคยปรากฎว่ามากเท่านี้คือ 5 แสนล้าน มากเกินไปไม่มีควงามจำเป็น งบฯที่ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ คือ งบฯกระทรวงกลาโหม เพราะในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีประชาชนไม่มีจะกิน ถ้าไปตัดตรงนี้นำไปใส่ในเศรษฐกิจจะดีกว่าไหม หรือ งบฯที่ซ้ำซ้อน แต่ที่กมธ.ฯไม่สามารถจะตัดได้ ได้แก่ งบฯใช้หนี้ต่างประเทศในประเทศ งบฯผูกพัน งบฯอื่น “กมธ.ฯ กล่าว