“บิณฑ์” เดือดจัดแจ้งจับกลุ่มหักหัวคิวชาวบ้าน แฉผู้นำชุมชนเนียนเซ็นรับเงินแม้พื้นที่น้ำไม่ท่วม

วันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดาราชื่อดัง พร้อมด้วยทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.มิตรชัย บุญล้ำ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร เพื่อให้ดำเนินกับผู้แอบอ้างเป็นทีมงานเรียกเก็บค่าหัวคิวจากชาวบ้านเพื่อไปใช้จ่ายดูแลค่าที่พักของนายบิณฑ์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ชาวบ้านได้รับเงินไปช่วยเหลือน้ำท่วมแล้วปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลได้เข้าไปเรียกเก็บเงินคืนจากชาวบ้านคนละ 4,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปดูแลค่าที่พักค่าอาหารและค่าดำเนินการอื่นให้กับทีมงานของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โดยมี พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร เข้าร่วมรับฟัง นายบิณฑ์กล่าวว่า ไม่พอใจมากๆ ที่ได้ยินข่าว ที่ผู้นำบางคนหรือผู้ที่มีความคิดหาเศษหาเลยกับชาวบ้านเล็กๆ น้อยๆ จากเงินบริจาคจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อจะเอาเข้าพกเข้าห่อของตัวเองเป็นการคิดวางแผนไว้เรียบร้อยกับชาวบ้านกับใครก็แล้วแต่ เป็นการวางแผน บางพื้นที่น้ำไม่ท่วม แต่ผู้ใหญ่บ้านกำนันบางคนรับรองมาว่าน้ำท่วม แล้วมารับเงิน ตรงนี้ผมไม่สบายใจ และผมรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก และอีกอย่าง มีการแอบอ้างว่าทีมงานของผมบางคนไปขอเงินคืน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าโรงแรมค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อันนี้ผมรู้สึกว่าเลวบัดซบมาก ซึ่งตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่รู้สึกว่าผมโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง กรณีอย่างนี้ที่ผมมา ผมมาด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์ใจ และอยากจะให้ผู้ที่ถูกน้ำท่วม เป็นพื้นที่จริงและรับไปเลย 5,000 บาท ผมไม่มีการมาเสียดาย เพราะเป็นเงินของพี่น้องประชาชนบริจาค แต่บางคนคิดชั่วน้ำไม่ท่วม เอาผู้นำชุมชนมาเซ็นรับรอง ผู้นำชุมชนบางคนบอกไม่รู้เรื่อง ไปเอาที่อื่นมาเซ็นรับรอง ซึ่งตนเองไม่ได้ลงพื้นที่สำรวจเนื่องจากน้ำแห้งแล้ว ดังนั้นตนอยากจะให้ความจริงใจจากผู้นำชุมชนให้กับตนก่อน หรือใครก็ได้ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ให้ความจริงใจกับตนบ้าง ยืนยันว่าพื้นที่นี้น้ำท่วมจริง ตอนนี้ผมต้องย้อนกลับไปดูว่า พื้นที่ไหนน้ำไม่ท่วม ที่มีผู้นำชุมชนรับรองมา แต่มีข้อมูลมาว่าบ้านนี้น้ำไม่ท่วม แต่กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน รับรองมาคุณต้องรับผิดชอบ ตนไม่ยอม ตอนนี้ตนแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อย “บอกได้เลยว่าผมไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จะเป็นใครก็แล้วแต่ จะมีตำแหน่งใหญ่โตอะไรหรือไม่ จะสนิทกับผมหรือเป็นทีมงานของผม ผมยืนยันว่าไม่ยอมเด็ดขาด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกและในจังหวัดอื่นๆ ด้วย” นายบิณฑ์กล่าว