“กวินนาถ” โต้งูเห่า ลั่นไม่ออก อ้างเหตุผลโหวต อยากให้พื้นที่พัฒนา จำต้องหักมติพรรค

“กวินนาถ” ตั้งโต๊ะแถลง ยันไม่ใช่ “งูเห่าสีส้ม” แจง โหวตผ่าน พ.ร.บ.งบฯ หวังทำงานพื้นที่สะดวกขึ้น สุดสะเทือนใจ สวนปุ๊บโดนเตะออกจากไลน์ทุกกลุ่มปั๊บ ลั่น ไม่ลาออกส.ส.-อนค.แน่ เว้นแต่พรรคมีมติ แง้ม มีพรรคการเมืองรอเสียบเพียบทั้งฝ่ายค้าน-รัฐบาล ยอมรับ ส.ส.เขตน้อยใจปาร์ตี้ลิสต์จริง ถามเรื่องอะไร บอก “อย่าพูดเลย” ก่อนปล่อยโฮ

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่(อนค.) ซึ่งเป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรคที่โหวตสวนมติพรรค เห็นด้วยรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และเป็น 1 ใน 4 คนที่โหวตสวนมติพรรคในการโหวตพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)โอนอัตรากำลังฯ ว่า ตนโดนโจมตีเยอะพอสมควร จึงไม่ออกมาพูดอะไร แต่วันนี้เห็นว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ หากเราไม่พูดอะไร สิ่งที่เขากล่าวหาจะคิดว่าเป็นเรื่องจริงเสียก่อน จึงต้องออกมาพูด สำหรับเหตุผลที่โหวตสวนมติพรรคเรื่อง พ.ร.บ.งบฯ นั้น ตนเป็น ส.ส.เขต ที่มีปัญหาเชิงพื้นที่เยอะ ซึ่งเราเองลงพื้นที่ตลอด มองว่าสิ่งที่เราเห็นด้วย เราไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่อง แค่รับหลักการเท่านั้น แต่ยังมีวาระที่สองและสามอีก หากวาระที่เหลือไม่ดี เราก็ไม่โหวตให้ แต่เป็นการรับเพื่อเปิดทางให้ทีมงานในพื้นที่ทำงานต่อได้สะดวก

“ทุกท่านทราบว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว แล้วมันผิดหรือที่เราทำอะไรที่ทำให้ทีมงานในพื้นที่ทำงานได้สะดวกและสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น นี่เป็นเจตนาที่ดี แต่เรายังไม่มีโอกาสพูดอะไรเลย ซึ่งการที่เราเห็นชอบนั้น ในอนาคตมันก็อาจจะผ่าน ซึ่งไม่ใช่ว่ามันไม่ดีสักอย่าง ส่วนที่มันไม่ดีเราก็ต้องไปแก้ไขกัน แต่นี่มันแค่วาระแรก แต่จะตัดสินว่าขัดอุดมการณ์พรรคนั้น ต้องไปวัดกันในการโหวตครั้งที่ 3 อย่างไรก็ตาม การโหวตว่างดออกเสียงกับรับนั้น ไม่ต่างกัน แต่การที่เราไปโหวตไม่รับ ประชาชนก็ถามว่า เราไม่อยากให้พื้นที่พัฒนาใช่หรือไม่ ดังนั้น ต้องมองว่าเราผิดส่วนไหน เราโหวตเพื่อประชาชนแล้วผิดใช่หรือไม่ เราไปฆ่าใครตาย บางทีมันเจ็บปวด ทั้งที่เลือกที่จะฟังกันได้แต่กลับไม่ฟัง แล้วฟันว่าเราคืองูเห่า คือคนทรยศประชาชน อันนี้มันไม่ถูก” น.ส.กวินนาถกล่าว

น.ส.กวินนาถ กล่าวต่อว่า ที่ทุกคนตีข่าวกันว่ารับเงินสิบล้าน ก็ขอให้เอาหลักฐานมาให้ดู ตนขอสาบานต่อหน้าไฟเลยว่า ไม่เคยไปรับเงินที่ร้านเพลินตามข่าวลือที่ปรากฎ กลายเป็นว่าการที่เราสวนมติครั้งนี้ก็กลายเป็นงูเห่า รัฐบาลมีเสียงมากกว่าอยู่แล้ว เขาจะมาซื้ออะไรแค่คนเดียว ก่อนหน้านี้ มีคนมาเสนอ 30 50 70 ล้าน แล้ว ถ้าจะไปก็ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จะมาไปอะไรแค่ 10 ล้าน

“ผมรู้ว่าการโหวตสวนไปครั้งนี้ ปัญหามันจะกลับมาเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ พอเราให้เหตุผลเขาก็ว่าเราแถอีก” น.ส.กวินนาถกล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนโหวตได้มีการคุยกับคนในพรรคหรือไม่ น.ส.กวินนาถ กล่าวว่า ได้แจ้งสมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และอยู่ในวิป ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ว่าจะโหวตแบบนี้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ถูกตีออกไปข้างนอก ซึ่งเรื่องนี้เราไม่แน่ใจว่าเขาได้ไปพูดต่อหรือเปล่า โดยเราก็บอกเหตุผลไป เขาก็บอกว่าค่อยมาคุยกัน ซึ่งเรายืนยันว่าเราจะโหวตแบบนี้

“อาจารย์ปิยบุตรบอกว่าหากมีอะไรอัดอั้นตันใจก็บอกกับเขา ซึ่งตนก็รู้สึกผิดกับพรรคที่เราโหวตสวน แต่ในส่วนส.ส.ด้วยกันไม่มีปัญหาอะไร แต่กระแสข้างนอกกลับแรงมาก นอกจากนี้ การโหวตสวนครั้งแรกกระแสยังไม่แรงไม่เท่าไร แต่หลังจากโหวตเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ตอนนี้กลับโดนถีบออกจากกลุ่มไลน์ทุกกลุ่มเลย” น.ส.กวินนาถระบุ

เมื่อถามถึงแนวทางการออกเสียงในครั้งต่อไป น.ส.กวินนาถ กล่าวว่า คงต้องดูว่าทางรัฐบาลได้แก้ไขอะไรตามที่พรรคฝ่ายค้านชี้แจงไปหรือไม่ หากว่าไม่ เราก็อาจจะโหวตไม่รับ ซึ่งหากตนจะไปคุยกับแกนนำพรรค ก็คงไปคุยกับนายปิยบุตร สำหรับสมาชิกพรรคที่เขาไม่สบายใจ ตนก็ต้องขอโทษกับท่านที่ไม่พอใจด้วย และยังยืนยันว่าจะอยู่กับพรรค ไม่คิดลาออก แม้จะมีกระแสให้ลาออกจากการเป็น ส.ส.ก็ตามที

“ผอ.ศูนย์ชลบุรีที่ออกมาพูดนั้น เขายุติบทบาทหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งจากนี้เราก็ทำงานปกติ แต่ไม่รู้ว่าระหว่างคนที่ทำงานด้วย จะมีอาการน้อยใจหรือไม่ เราไม่สามารถทำทุกเรื่องให้ถูกใจคนทุกคนได้ แต่คนในพื้นที่เข้าใจว่า ส.ส. มาทำเพื่อประชาชน และเราก็รู้ว่าการที่ทำแบบนี้โดนด่าแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นทั้งงูเห่าและกาฝากแน่นอน ยืนยันได้จากความสุจริตของเรา อยู่ที่ความเชื่อมั่นของประชาชนว่าเชื่อเรามากน้อยแค่ไหน พอเห็นว่าเราสวนปุ๊บเขาก็ใส่เลยว่า งูเห่าสีส้ม ขอถามหน่อยหากซื้อคนเดียวจะซื้อทำไม ไปเอารอบ 70 ล้านไม่ดีกว่าหรือ และขอยืนยันว่า ไม่ว่ากดดันอย่างไรก็ไม่ลาออกจาก ส.ส. และพรรคอนาคตใหม่ แต่ถ้าเป็นมติพรรค ก็ยอมรับ ช่วงที่สวนมติพรรคไป ก็มีหลายพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมาให้กำลังใจ และบอกว่าให้ไปกับเขาได้ถ้าไม่มีทางไป” น.ส.กวินนาถกล่าว

เมื่อถามว่า การปิดช่องทางการติดต่อส่วนตัวไป มีกระแสตีกลับอย่างไรบ้าง น.ส.กวินนาถ กล่าวว่า พอปิดช่องทางการติดต่อกับประชาชน ก็โดนทักไปหาคุณแม่ หรือไปยังครอบครัวคนอื่นๆ แต่ไม่ได้โดนคุกคามเรื่องความปลอดภัย มีเพียงแต่คำขู่ของคนในโซเชียล และคนในพื้นที่บางกลุ่มเท่านั้น ขณะที่เรื่องการโหวตเห็นด้วยกับพ.ร.ก.โอนอัตรากำลังนั้นฯ ตนคิดว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนตัวไม่อยากก้าวล่วงหรือทำอะไรขัดกับสถาบันฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าแนวทางของพรรคอนาคตใหม่เป็นแบบนั้น เรื่องนี้สามารถคิดได้หลายแบบ แต่ตนทำเพื่อความสบายใจมากกว่า และยอมรับว่าเป็นเรื่องของความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ด้วยส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ หลังจากตนโหวตเห็นด้วยกับพ.ร.ก.โอนอัตรากำลังฯ นายปิยบุตรก็ไม่ได้มาพูดจาเพื่อกำชับเรื่องการโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯแต่อย่างใด

น.ส.กวินนาถ กล่าวว่า ส่วนที่มีคนบอกว่าตนไปคุยกับพรรคอื่น ต้องถามว่าการเป็นเพื่อนกันในสภาฯ มันผิดหรือไม่ เราสามารถคุยได้ทุกคน ไม่จำเป็นต้องโกรธกัน และขณะนี้ยังไม่ได้นัดหมายวันพูดคุยกับนายปิยบุตร

เมื่อถามถึงกรณีความเห็นต่างเรื่องการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ชลบุรี น.ส.กวินนาถกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรรมการสรรหาได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวได้เจรจาให้หลายๆทีมในจังหวัดชลบุรีมารวมกัน ไม่ต้องดีเบตสร้างความแตกแยก เพราะอาจจะเสียแต้มโดยใช่เหตุ เนื่องจากจากประสบการณ์ของตน เป็นส.ส.จากระบบไพรมารี่ หลังจากตนชนะ ทำให้คนที่แพ้โจมตีตนเรื่องการทำงานตลอดเวลา จึงไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ในการส่งผู้สมัครนายกฯอบจ.อีก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตนโหวตสวนมติพรรค เพราะตนแยกแยะได้

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสว่ากรรมการบริหารพรรคให้ความสำคัญกับส.ส.บัญชีรายชื่อมากกว่า จนทำให้ส.ส.เขตบางส่วนเกิดความน้อยใจ น.ส.กวินนาถกล่าวทั้งน้ำตา ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคน บางทีเราก็น้อยใจ มันเป็นเรื่องของการให้ความสำคัญ แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลหลัก เพราะเราแยกแยะระหว่างการทำงานเพื่อประชาชนกับปัญหาภายในพรรค

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงเลือกเข้าไปคุยกับนายปิยบุตรแทนที่จะเป็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค น.ส.กวินนาถกล่าวว่า เป็นการดูแลคนละส่วนกัน นายธนาธรก็ทำงานในส่วนของเขา ส่วนนายปิยบุตรจะดูแลบุคลากรภายในพรรค เมื่อถามย้ำว่าเรื่องใดที่ทำให้รู้สึกน้อยใจที่สุุด น.ส.กวินนาถกล่าวว่า “อย่าให้พูดเลย” ก่อนจะร้องไห้และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที