ส.ส.เฮ้ง ยอมรับสภาเล่นตามกฏ กติกาถือว่านิมิตหมายของการเมืองรูปแบบใหม่

ส.ส.เฮ้งยอมรับสภาเล่นตามกฏ กติกาถือว่านิมิตหมายของการเมืองรูปแบบใหม่ ชี้ กวินนาถ ตาคีย์ กล้าตัดสินใจสนับสนุนงบประมาณวาระแรกเพราะเห็นความสำคัญ

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น หรือ ส.ส.เฮ้ง ประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และวิปรัฐบาลเปิดเผยถึงการพิจารณางบประมาณในวาระแรกว่า การพิจารณางบประมาณ ประจำปี 2563 นั้นถือว่าเป็นการลงมติในวาระแรก ซึ่งไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ที่สำคัญถึงแม้ว่า ส.ส.ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยก็ตามโดยการงดออกเสียง แต่การตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณางบประมาณนั้นก็ให้สัดส่วนฝ่ายค้านไว้แล้วทั้งหมด 25 คน ถือว่าเป็นการเมืองรูปแบบใหม่ที่มีทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านจะมาร่วมบูรณาการงบประมาณร่วมกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ต่อไปในห้วงเวลา 60-70 วัน ก็จะถกในเรื่องการปรับลดหรือเพิ่มงบประมาณก็จะคุยกันบนโต๊ะ โดยจะมีการชี้แจงของข้าราชการประจำ ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ที่รับนโยบายจากรัฐมนตรีมาชี้แจง เพื่อให้สร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย ก็ควรจะถกปัญหาในเรื่องงบประมาณบนโต๊ะให้จบ และสร้างความเข้าใจทุกฝ่าย ส่วนการพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 นั้น มั่นใจว่างบประมาณจะต้องผ่านสภาอย่างแน่นอน

นายสุชาติกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 ได้ยกมือสนับสนุนงบประมาณในวาระแรกว่า มองว่าการที่ยกมือเห็นด้วยกับการพิจารณางบประมาณวาระแรก เห็นว่าให้ความสำคัญของงบประมาณของประเทศ จึงได้กล้าตัดสินใจยกมือสนับสนุน ตนเห็นว่าการงดออกเสียง หรือไม่รับหลักการนั้น อยากตั้งข้อสังเกตว่า โครงการต่างๆ ที่เสนอเข้ามานั้น ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดีนั้น ทางรัฐบาลรวมทั้งรัฐมนตรีได้ให้นโยบายในการจัดทำโครงการ เพื่อให้ประเทศเกิดการพัฒนา ซึ่งดำเนินการโดยข้าราชการประจำซึ่งจะรู้ปัญหาดี หากมีปัญหาหรือไม่เข้าใจก็สอบถามได้ในคณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นมา ซึ่งควรจะถกปัญหากันด้วยเหตุและผลมากกว่า

“สมัยที่ผมนั่งอยู่ในกรรมาธิการงบประมาณเมื่อปี 2555 ซึ่งมีการพิจารณางบประมาณเพียง 2.38 ล้านล้านบาท ผ่านมาถึง 8 ปีแล้วการพิจารณางบประมาณในปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาทนั้น คิดคำนวณแล้วเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ เท่านั้น ในฐานะที่ผมเป็นซีอีโอของธุรกิจ ก็จะต้องตั้งงบประมาณสูงขึ้นทุกปี 5-10 เปอร์เซ็นต์ เพราะข้าราชการ หรือพนักงานก็ต้องขึ้นเงินเดือนทุกปีถึงจะทำงานได้ ก็เหมือนกับการพิจารณางบประมาณของประเทศเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะขัดแย้งกับความเป็นจริง” นายสุชาติกล่าวและว่า ในฐานะวิปของรัฐบาลนั้น ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ส.ส.ยังอยู่ในระเบียบวินัย ไม่มีเสียงหนึ่งเสียงใดตกหาย มีเพียงนายสุชาติ ตันเจริญ เท่านั้นที่งดออกเสียง เนื่องจากเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายสุชาติกล่าวอีกว่า ในการพิจารณาวาระ 2-3 นั้น ตนเองไม่หนักใจเชื่อว่าจะต้องผ่านแน่นอน เพื่อให้ประเทศมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไป ส่วนการทำงานของฝ่ายค้านยอมรับว่ามีคุณภาพ เพราะเล่นตามกฎกติกาพูดคุยกันด้วยเหตุผล แม้กระทั่งการอภิปรายในสภาตนเองยังไปนั่งคุยกับพรรคเพื่อไทยเลย การเมืองก็คือการเมือง ส่วนความเป็นสมัครพรรคพวกก็ยังต้องมีอยู่ ก็ต้องแยกแยะกันไป