ปิดห้องซัก“บิ๊กแดง”1ชม. “พงศกร” บอก ผบ.ทบ. ยัน เป็นกลาง ไม่แทรกแซงการเมือง

ปิดห้องซัก “บิ๊กแดง” 1ชม. กมธ.มั่นคงฯ แฮบปี้ แลกเปลี่ยนทัศนะ ทบ.จ่อส่งที่ปรึกษาร่วมคณะ เผย “ส.ส.บอกตัวจริง ผมไม่ดุเหมือนในทีวี” ด้าน   ผบ.ยัน เป็นกลาง ไม่แทรกแซงการเมือง

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ท.พงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นประธาน ได้เชิญ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ผบ.ทบ.) มาชี้แจงเกี่ยวกับการบรรยายพิเศษ หัวข้อแผ่นดินของเราในมุมมองความมั่นคง แต่ผบ.ทบ.ได้ส่งพล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นผู้ชี้แจงแทน โดย พล.ท.พงศกร กล่าวว่า กมธ.ต้องการให้ผบ.ทบ.มาชี้แจงด้วยตัวเอง ดังนั้น จึงจะเชิญมาชี้แจงครั้งที่ 2 โดยให้แจ้งกำหนดเวลาเข้าชี้แจงว่าเป็นวันใดภายในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ โดยให้ระยะเวลา 30 วันที่สามารถเข้าชี้แจงได้คือก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายน หากไม่มาก็อาจจะต้องมีการเชิญครั้งที่ 3

ต่อมา เวลา 10.50 น. พล.อ.อภิรัชต์ ได้เดินทางเข้าชี้แจงต่อคณะกมธ. พร้อมกล่าวว่า ความจริงแล้วตนมีภารกิจตรวจเยี่ยมให้นโยบายกองกำลังสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี ถึงช่วงบ่าย แต่เห็นว่า ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดจาหารือกัน ซึ่งกองทัพบกให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ตนจึงตัดกำหนดการออกไปแล้วบินกลับร่วมประชุม โดยเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถ ยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงทุกอย่าง

ต่อมา ‪เวลา 12.18 น. ภายหลังเข้าชี้แจงนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศเป็นไปที่ดี ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ประธานกมธ.ได้เชิญมา มีหลายประเด็นในเรื่องความมั่นคงที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ได้เรียกว่า ปรับความเข้าใจ เพราะจริงๆเราเข้าใจบทบาทหน้าที่กันอยู่แล้ว ซึ่งกมธ.ได้มีข้อห่วงใยหลายๆอย่างที่ทำให้เป็นประโยชน์ โดยกองทัพจะนำไปพัฒนาหรือนำไปเป็นข้อมูล ‬วันนี้ตนตั้งใจที่จะมา จริงๆมีภารกิจตรวจเยี่ยมกองกำลังสุรสีห์ ที่จ.กาญจนบุรี ก็รีบบินกลับมา เนื่องจากเห็นความสำคัญของกมธ.และเห็นความสำคัญของฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติที่เราจะต้องทำงานร่วมกันและเดินไปด้วยกัน

เมื่อถามว่า ประเด็นที่หารือกันในที่ประชุมที่จะนำไปเป็นประโยชน์ในกองทัพ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มีการเสนอความเห็นในเรื่องของภาคใต้ เรื่องเทคโนโลยี ที่ควรเอาเข้ามาใช้ เรื่องยาเสพติด ซึ่งทางกมธ.ทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีมุมมอง ยิ่ง พล.ท.พงศกร รอดชมภู ประธานกมธ.เคยอยู่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มา ท่านก็มีความรู้หลายอย่าง ซึ่งก็สอดคล้องกันในหลายประเด็น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนจะส่งที่ปรึกษากองทัพมาอยู่ในกมธ.ด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้เข้าใจว่า กมธ.มีการคุยอะไร เหมือนเป็นแมสเซนเจอร์ให้เราด้วย

เมื่อถามว่า จากการแลกเปลี่ยนความเห็นทำให้มีมุมมองเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่พูดบนเวทีมากขึ้นหรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า “นักข่าวถามไม่ตรง เพราะบนเวทีผมไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองใดเลย ไม่ได้เอ่ยชื่อพรรคการเมืองหรือเอ่ยชื่อใครเลย ผมก็พูดไปตามบทบาทหน้าที่ เช่นเดียวกับส.ส.และกมธ.ทุกคน ที่มีบทบาทหน้าที่ บางครั้งหน้าที่ก็กำหนดอารมณ์ความรู้สึกออกมา พอผมมีบทบาทหน้าที่ในด้านความมั่นคง ท่านมีบทบาทหน้าที่ที่จะต้องรักษาและเป็นเสียงให้กับประชานที่เลือกท่านมา บางครั้งหลายท่าน บางทีผมเห็นในทีวีหรือในสภาฯท่านดุเดือด วิจารณ์ดุเดือดมาก แต่วันนี้มาเจอก็คนละรูปแบบ ก็เช่นเดียวกันท่านก็บอกว่า ผมดูเหมือนดุพอมาเจอจริงๆไม่เห็นเป็นอย่างนั้นเลย”

เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ระหว่างทหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า “เป็นสัญญาณที่ดี เป็นเรื่องที่ดี ถ้าไม่ดีผมไม่มาหรอกวันนี้”

ด้าน พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ประธานกมธ.ความั่นคงฯ กล่าวว่า “สิ่งที่ได้แลกเปลี่ยนกัน ถือว่าเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ผบ.ทบ.ก็มีชุดความคิดของท่าน กมธ.ก็รับฟัง โดย 2 ฝ่ายได้อธิบายความในใจ เอาความจริงมาพูดกัน ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น เราทราบว่าท่านคิดอะไร และท่านก็ทราบว่า เราคิดอะไร ถือว่า แฮปปี้กันทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีหลายเรื่องที่กมธ.ให้ข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพในการนำไปปฏิบัติ และหลายเรื่องก็เป็นเรื่องลับที่พูดกันข้างนอกไม่ได้ แต่การได้พบกัน ถือเป็นการร่วมมือกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับผู้บัญชาการในฝ่ายบริหาร ซึ่งเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อไปในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความมั่นคง ส่วนเรื่องการวางตัวของ ผบ.ทบ.ที่ถูกมองว่า ไม่เป็นกลางทางการเมืองนั้น ตรงนี้ท่านยืนยันว่า ท่านจะไม่แทรกแซงทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี”