‘เพื่อไทย’ แถลงจุดยืน9ข้อ ‘แบนสารพิษ’ จี้ควักงบฯมั่นคงเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แนะนายกฯตัดสินใจให้ดี

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรม แถลงถึงการแบนสารพิษทางการเกษตร

นายปลอดประสพ แถลงว่า พรรค พท.ในฐานะเป็นผู้เสนอญัตติต่อสภาให้ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเรื่องนี้ขึ้นมา จึงขอประกาศจุดยืนว่า 1.พรรค พท.มองว่าเกษตรกรกว่า 30 ล้านคน ที่ดินอีกว่า 100 ล้านไร่ เป็นความมั่นคงของชาติ 2.การเกษตรก็ดี ธุรกิจการเกษตรก็ดี หากทำอย่างถูกต้องจะทำให้ประเทศรุ่งเรืองขึ้นได้ 3.พรรคพท.เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรที่สะอาด และปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องเป็นเป้าหมายในการพัฒนาการเกษตรของไทย 4.ทางกาศึกษาสารคลอร์ไพริฟอส-พาราควอต-ไกลโฟเซต เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม 5.ควรระงับสารทั้ง 3 ไว้ในครอบครองโดยทันที 6.เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการหาทางออกเรื่องการทดแทนผู้เกี่ยวข้องให้ไวที่สุด 7.พรรคพท.เสนอว่า ควรใช้งบฯ จากหมวดความมั่นคงมาบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดจากเกษตรกร และผู้ประกอบการ 8.ขอวิงวอน และแสดงความเห็นใจผู้ที่เกี่ยวข้อง เราต้องพร้อมใจเปลี่ยนประเทศไปในทางที่ดี ต้องกัดฟันเดินหน้าเสียสละ และ 9.ขอให้กำลังใจคณะกรรมการวัตถุอันตราย ขอให้ท่านคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน และประเทศเป็นหลัก

“ไม่เชื่อว่าจะมีคนไหนที่ไม่หารือกับรัฐมนตรีของท่าน การตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ ผมไม่ถือว่าเป็นการตัดสินใจของกรม หรือใครท่านใดท่านหนึ่ง แต่จะถือว่าเป็นการตัดสินใจของรัฐมนตรี และรัฐบาล” นายปลอดประสพ กล่าว

ด้านนายชวลิต กล่าวว่า กมธ.ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า กมธ.ไม่สนับสนุนในการหาสารเคมีชนิดอื่นมาทดแทน ไม่เอื้อกลุ่มทุนกลุ่มใดในด้านสารเคมี พรรค และ กมธ.จะสนับสนุนการเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้ นายกฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด นายกฯจะทราบเรื่องนี้ดีที่สุด ก็อยู่ที่การตัดสินใจของท่าน หากท่านตัดสินใจพลาดในทางนโยบาย ท่านจะต้องรับผิดชอบในทางนโยบายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อยากฝากรัฐบาลว่า เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ ควรจัดงบฯจากความมั่นคงไปตั้งห้องแล็บตรวจสอบที่ด่านเชียงของซึ่งเป็นต้นทาง เห็นว่าใช้งบฯเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับมูลค่าสินค้าที่ขนมาหลายร้อยล้านบาท