เผยแพร่ |
---|
‘อนุดิษฐ์’ ถาม ‘บิ๊กตู่’ ไหนว่าศก.ดี ชี้ถ้างบ’63 ไม่กระตุ้นศก.ภายใน ยังติดอาวุธไม่เลิก จองเมรุไว้ได้เลย
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2563 ตอนหนึ่งว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยน่าเป็นห่วงจากตัวเลขต่างๆ ไม่ว่าตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ว่า มีคนว่างงานสูงถึง 4.3 แสนคน ตัวเลขจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่ระบุการจัดภาษีมูลค่าเพิ่มติดลบตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่ชี้ว่า หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นถึง 12.98 ล้านล้านบาทสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียและเป็นอันดับ 11 ของโลกเฉลี่ยเป็นหนี้หลายแสนบาทต่อคนนั้น สะท้อนให้เห็นว่าส่งสัญญาณอันตรายให้เห็นชัดเจนคนไทยตกงานมากขึ้น เพราะภาคการผลิตกำลังลดการผลิตหรือปิดตัวลงการที่คนมีรายได้ลดลงยังก่อผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดที่มีคดีสูงเป็นแสนคดีแล้ว
ขณะที่ รัฐบาลหลังการรัฐประหารมีตัวเลขการก่อหนี้เพื่อชดเชยงบประมาณสูงขึ้นเรื่อยๆโดยปี 2563 วางแผนกู้สูงถึง 4.69 แสนล้านบาท ขณะที่อปท.ใช้งบสะสม 6 แสนล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ถามว่า การสั่งให้ล้วงงบท้องถิ่นดังกล่าว ถือว่าผิดหรือไม่ เพราะเป็นเสียวินัยการคลังตรวจสอบไม่ได้ และเป็นการใช้เงินอย่างไร้ยุทธศาสตร์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก่อหนี้เพื่อชดเชยงบประมาณสูงที่สุด ตั้งแต่มีการจัดงบประมาณในประเทศมามีการใช้งบอย่างมหาศาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่คนจนกลับเพิ่มขึ้น ผิดกับความมั่นคั่งของ 5 ตระกูลที่มีสินทรัพย์มากถึง 1 ล้านล้านบาทร่ำรวย เพราะทำมาหากินกับรัฐบาลใช้งบประมาณที่ไม่เท่าเทียมจนได้แชมป์ความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก
“หลังการยึดอำนาจท่านปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรตกทุกตัวแล้วยังแก้ปัญหาด้วยวาทกรรมเพื่อเอาตัวรอด ข้าวราคาถูกก็บอกให้ไปปลูกหมามุ่ย น้ำท่วมก็ให้เลี้ยงปลาขาย ทั้งที่เกษตรกรเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ส่วนร้านค้าตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นร้านเซ้งหรือปิดกิจการเหมือนกันหมดแล้ว รัฐบาลใช้เงินผิดประเภท แทนที่จะติดอาวุธสร้างงานให้คนกลับไปติดอาวุธให้กับกองทัพวันนี้ รัฐบาลควรกระตุ้นเศรษฐกิจจากภายใน แต่จนถึงทุกวันนี้กลับทำแต่นโยบายแจกเงินผ่านบัตรต่างๆทำให้เสียวินัยการเงินจนผู้ประกอบการและประชาชน ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลต่อให้ถมเงินลงไปเท่าไรก็ยิ่งเปลืองเงินภาษีของพวกเรา
“สถานการณ์เศรษฐกิจปีหน้าจะหนักขั้นสาหัส เพราะสงครามการค้าที่เกิดขึ้นการส่งออกที่ลดลง จะส่งผลกระทบต่อการผลิตลามไปถึงการเลิกจ้างกำลังซื้อในประเทศหดตัวค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่พล.อ.ประยุทธ์คุยว่า เศรษฐกิจดีโดยดูจากทุนสำรองระหว่างประเทศนั้น นั่นไม่ใช่เงินของรัฐบาลไม่สามารถนำมาใช้อ้างเพื่อการแสดงความมั่งคั่งของรัฐบาลได้สรุปแล้วคือรัฐบาลจัดสรรเม็ดเงินอย่างสิ้นหวังกฎหมายงบประมาณฉบับนี้มาทางไหนกลับไปทางนั้นขอให้กลับไปจัดสรรใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจชะลอการใช้งบในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ถ้าผิดไปจากนี้จองศาลาไว้สวด จองเมรุเอาไว้เลย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว