สภาสหรัฐ ผ่านกม.สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง จีนโวยแทรกแซงกิจการภายใน

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง เพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม โดยกฎหมายดังกล่าวระบุให้มีการตรวจสอบพิจารณาเสรีภาพของฮ่องกงเป็นประจำทุกปี ว่ามีมากเพียงพอที่จะได้รับ “สถานะทางการค้าพิเศษ” จากสหรัฐหรือไม่ และยังผ่านกฎหมายที่ห้ามส่งออกแก๊สน้ำตาไปฮ่องกงอีกด้วย

ทั้งนี้ สหรัฐระบุว่า “ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่มีระบบกฎหมายและเศรษฐกิจที่แยกส่วนอย่างกว้างขวาง” และยังระบุว่า “การตรวจสอบประจำปีจะเป็นการประเมินว่า จีนได้ทำลายเสรีภาพของบุคคลและหลักนิติธรรมซึ่งได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงหรือไม่”

ซึ่งกฎหมายดังกล่าวยังระบุว่า สหรัฐจะให้วีซ่าเดินทางเข้าประเทศสหรัฐแก่ชาวฮ่องกง แม้ว่าจะเคยมีประวัติถูกจับกุมจากการเข้าร่วมการชุมนุมประท้วง ส่วนผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการลักพาตัวและทรมานผู้คนที่ใช้สิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันหมายถึงเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐ

นอกจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐยังผ่านร่าง “กฎหมายปกป้องฮ่องกง” (PROTECT Hong Kong Act) โดยระบุให้ยุติการส่งออกอุปกรณ์สำหรับควบคุมฝูงชนอย่างเช่น แก๊สน้ำตาและกระสุนยางไปยังฮ่องกง โดยให้เหตุผลว่าอุปกรณ์ดังกล่าวถูกนำไปใช้งานโดยไม่จำเป็นและไม่เหมาะสมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม กฎหมายทั้ง 2 ฉบับเพิ่งผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยการสนับสนุนอย่างท่วมท้นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ยังคงต้องได้รับการอนุมัติวุฒิสภาของสหรัฐก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้ต่อไป

“แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า “ถ้าอเมริกาไม่พูดเพื่อสิทธิมนุษยชนในจีนเพียงเพราะผลประโยชน์ทางการค้า เราก็จะสูญเสียความชอบธรรมในการพูดเพื่อสิทธิมนุษยชนในทุกพื้นที่ในโลก”

ขณะที่ “เกิง ฉวง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมาตอบโต้ว่า “เราขอแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง และจะต่อต้านการกระทำของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่ผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงอย่างถึงที่สุด” พร้อมทั้งระบุว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอย่างแน่นอน

ทั้งนี้สถานะทางการค้าพิเศษของฮ่องกงในปัจจุบัน ทำให้ฮ่องกงไม่ต้องรับผลจากมาตรการแซงก์ชั่น หรือการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐที่ใช้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหากฮ่องกงสูญเสียสถานะดังกล่าวย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในภาพรวมด้วย