‘อนุทิน’ ยันแบน 3 สารพิษแน่ ชี้อันตรายต่อสุขภาพปชช. ข้อมูลแน่นไม่ได้คิดไปเอง

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนักวิชาการท่านหนึ่ง ซึ่งมีจุดยืนหนุนพาราควอต ออกมาเสนอให้ฝ่ายหนุนและฝ่ายต้านสารพิษมาดีเบตแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบเหตุผลของแต่ละฝ่าย ว่า ใครมีข้อมูลอะไรก็นำเสนอคณะกรรมวัตถุอันตราย แน่นอนว่าในการประชุมทุกครั้ง จะเป็นการถกเถียงกันด้วยข้อมูล ระหว่างนี้ใครจะพูดอะไรก็พูดไป เป็นสิทธิของท่านในการให้ข้อมูล แต่ในฐานะ รมว.สาธารณสุข สนับสนุนให้คนไทยใช้สารพิษต่อไปไม่ได้ เพราะมีอันตรายต่อสุขภาพ

“เรื่องนี้ไม่ได้คิดไปเอง แต่รับข้อมูลจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนจะตัดสินใจอย่างรอบคอบ และประกาศจุดยืนว่าต้องแบนสารพิษ แน่นอนว่าในการประชุมคณะกรรมการวัตุอันตราย ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งปลัด สธ. และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่มีแตกแถว แต่ของกระทรวงอื่น ผมไม่ทราบ และจะไม่ก้าวก่ายด้วย ขอย้ำว่า ใครจะพูดอย่างไร ก็พูดได้ แต่ในฐานะ รมว.สาธารณสุข สุขภาพของประชาชนคือสิ่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า วันนี้เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารเคมีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร ได้ประสานสอบถามไปยังฝ่ายเลขานุการของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เพราะต้องการทราบวันที่แน่ชัดว่าจะให้เข้าพบได้เมื่อไร แต่ทางทีมเลขาฯ กลับขอให้ส่งรายละเอียดว่าทางเครือข่ายเป็นใครจะขอเข้าพบเรื่องอะไร ซึ่งเครือข่าย 686 องค์กร ได้ส่งรายละเอียดไปให้แล้วในวันนี้ว่า พวกตนเป็นเครือข่ายที่สนับสนุนการแบนสารเคมีอันตราย ต้องการเข้าพบเพื่อให้ รมว.อุตสาหกรรม แสดงจุดยืนว่า จะมีการโหวตอย่างเปิดเผย และให้กรรมการแต่ละคน ได้อธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมไม่แบนหรือทำไมแบน เพราะหากเป็นคนที่หัวหน้าพรรคออกมาแสดงจุดยืนว่าให้แบน แต่ทำไมจึงแหวกโผพรรค

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ทางเครือข่ายฯ 686 องค์กร ค่อนข้างแปลกใจและอยากตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมถึงทางฝ่ายเลขาฯของรมว.อุตสาหกรรม จึงไม่รู้จักเครือข่าย ทั้งที่เครือข่ายก็มีการดำเนินการเรื่องสนับสนุนการแบนสารเคมี และมีการไปเข้าพบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเป็นกรรมการวัตถุอันตรายมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ขณะนี้จึงยังนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องร่วมกันกดดันต่อไป เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ก่อนโหวตมีการบอกว่าจะแบนสารเคมีอันตราย แต่ผลที่ออกมา คือ มีคนไม่แบน 16 เสียง และแบน 5 เสียง ดังนั้น รอบนี้เราจึงต้องการความโปร่งใส โดยในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่จะมีการกดดันทั่วประเทศในการรวมพลังกันแบนสารเคมีอันตรายทั้งแผ่นดินนั้น ในส่วนกลางจะมีการจัดเวทีให้ความรู้เกี่ยวกับการรู้เท่าทันสารเคมีอันตรายด้วย