กมธ.สารเคมีฯ ย้ำ จุดยืนแบน 3 สารพิษ เตรียมลุยตลาดไท ตรวจผัก-ผลไม้จากจีน

กมธ.สารเคมีฯ ย้ำ จุดยืนแบน 3 สารพิษ หวังคณะกรรมการวัตถุอันตรายรับไปพิจารณา เตรียมลงตลาดไท ตรวจคาราวานตู้คอนเทนเนอร์นำเข้า ผักผลไม้จากจีนปนเปื้อนสารเคมีหรือไม่ 20 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่รัฐสภา นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม ว่า ขณะนี้ใกล้จะถึงวันที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะพิจารณาว่าแบน 3 สารเคมีอันตรายหรือไม่ ซึ่ง กมธ. ยังย้ำยืนยันในจุดยืนเดิมคือ ความปลอดภัยต่อชีวิตของประชาชน และจะต้องดูแลให้คนไทยและเด็กเกิดใหม่ปลอดภัยจากอาหารและพืชผักที่ไม่มีสารเคมีเกินค่ามาตรฐาน ดังนั้นจุดยืนของกมธ.ไม่เปลี่ยนแปลง คือแบนการใช้ 3สารเคมีอันตราย ทั้งสารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ขณะที่ทางฝ่ายบริหารก็มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกันหวังว่า แนวทางของคณะกรรมาธิการฯจะเป็นส่วนสำคัญที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะรับไปพิจารณา ทั้งนี้ทาง กมธ. เห็นว่าสิ่งที่สามารถใช้ทดแทนได้ คือ การยึดแนวทางเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ได้ผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย

นายชวลิต กล่าวต่อว่า กมธ. จะลงพื้นที่ตลาดไท ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ เพื่อตรวจสอบคาราวานรถตู้คอนเทนเนอร์ที่นำเข้าพืชผักผลไม้จากประชาชนจีน ว่าพืชผักเหล่านั้นมีการปนเปื้อนสารเคมีหรือไม่ และจะเดินทางไปโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก เพื่อเยี่ยมชมโครงการแปลงสาธิตนาอินทรีย์ ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งจะเดินทางไปยัง จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี เพื่อศึกษาดูงานตัวอย่างการทำเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ โดยจะนำข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่มาศึกษาแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์ว่ามีความเหมาะสมกับเกษตรกรในประเทศหรือไม่ และจะได้นำขยายผลต่อไป นอกจากนั้น กมธ. จะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ จ.หนองบัวลำภูในวันที่ 1 พ.ย.เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขการใช้ยาปราบวัชพืชในพื้นที่ เนื่องจากแต่เดิมเกษตรกรในพื้นที่มีการใช้ยาปราบวัชพืชเป็นจำนวนมากจนทำให้ได้รับผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม