“สุริยะ”เผยนิคมฯสงขลาเปิดปี63 มั่นใจกระตุ้นค้าชายแดนใต้แตะ 7 แสนล้าน ดึงลงทุนหนีเทรดวอร์ เนื้อหอมเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน รุมถาม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการลงพื้นที่เยี่ยมชมความก้าวหน้าการการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจังหวัดสงขลา(เอสอีแซด) ระยะที่ 1 จำนวน 629 ไร่ อ.สะเดา จ.สงขลา ว่า ความคืบหน้าการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมสงขลาในเอสอีแซด ดำเนินการโดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) พบว่า ปัจจุบันได้พัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง คืบหน้าประมาณ 20% และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมายในปี 2563 ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวมีนักลงทุนทั้งทั้งจากนักลงทุนไทย จีน และ มาเลเซีย เริ่มเข้ามาติดต่อและแสดงความสนใจแล้วประมาณ 5 ราย ใช้พื้นที่ลงทุนรวมมากกว่า 50 ไร่ โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างตัดสินใจเข้ามาใช้พื้นที่เป็นฐานการผลิต เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีเส้นทางการเชื่อมโยงระบบขนส่งที่ครบวงจร สามารถส่งสินค้าผ่านด่านที่สำคัญของภาคใต้ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นด่านทางบกที่มีมูลค่าการค้าสูงสุด นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ท่าเรือปีนัง และท่าเรือกลางของมาเลเซีย

“เชื่อว่าหลังนิคมฯสงขลา เปิดดำเนินการ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติจำนวนมาก เพราะมีทำเลเชื่อมโยงระบบขนส่งที่ครบวงจร โดยเฉพาะทำเลที่ใกล้ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ โดยได้รับการรายงานจากผู้บริหารท้องถิ่นว่านิคมดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนของภาคใต้เพิ่มอีก 2 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนล้านบาท รวมเป็น 7 แสนล้านบาท”นายสุริยะกล่าว

นายสุริยะกล่าวว่า นอกจากนั้นในอนาคตรัฐบาลจะจะมีการพัฒนาเส้นทางมอเตอร์เวย์ ที่สามารถเชื่อมโยงนิคมฯยางพารา อ.หาดใหญ่ จะช่วยสร้างระบบคลัสเตอร์ยางพาราที่มีความสมบูรณ์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีกนอ.เป็นผู้พัฒนาพื้นที่เพื่อเตรียมรองรับการลงทุน หลังจากรัฐบาลอยู่ระหว่างเร่งรัดการลงทุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการไทยแลนด์ พลัส ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ในช่วงที่เกิดปัญหาสงครามการค้า(เทรดวอร์) ระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน ทำให้มีนักลงทุนในจีนทั้งชาวจีนและต่างชาติ ต้องการพื้นที่ลงทุนใหม่ที่มีความพร้อม โดยกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างเดินสายชักจูงการลงทุน(โรดโชว์) ไปยังประเทศต่าง อาทิ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน

น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่ากนอ. กล่าวว่า นิคมฯสงขลาซึ่งอยู่เอสอีแซด ทางกนอ.ได้จัดแบ่งโซนพื้นที่เป็นพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมทั่วไป เขตพาณิชยกรรม และโรงงานสำเร็จรูป ประมาณ 347 ไร่ ที่เหลือ 283 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สาธารณูปโภคส่วนกลาง พื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่สีเขียว ออกแบบภายใต้แนวคิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่ทุกภาคส่วนทั้งสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน โดยนิคมฯสงขลาแห่งนี้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแห่งที่ 2 ที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาล ต่อจากนิคมฯสระแก้ว หากมีการใช้พื้นที่เต็มจำนวนแล้วจะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,400 อัตรา และก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในจังหวัดสงขลา ประมาณ 13,800 ล้านบาทในอนาคต