คลังคุมเข้มเฟส 2 “ชิมช้อปใช้” ขู่บัญชีดำ “ห้างร้าน-ผู้บริโภค” ฝืนกฎเหล็ก

คลังคุมเข้ม ! ห้ามห้าง-ร้านค้าออกโปรโมชั่นจูงใจผู้ใช้สิทธิ “ชิม ช้อป ใช้”ฝ่าฝืนลงโทษปิดแอปถุงเงิน-ขึ้นบัญชีดำส่วนผู้ใช้สิทธิผิดเงื่อนไขเล็งแบล็กลิสต์รายชื่องดเข้าร่วมเฟส 2 รับสมัครร้านค้า-ห้างเข้าร่วมโครงการต่อเนื่องไม่มีกำหนด

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังประชุมชี้แจงวัตถุประสงค์โครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ร่วมกับโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อ โดยมีตัวแทนจากบิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, ท็อปส์ มาร์เก็ต, เซเว่นอีเลฟเว่น เพาเวอร์บาย และผู้ประกอบการรายอื่น ๆ แนวทางขอความร่วมมือไม่ให้มีการส่งเสริมการขายออกโปรโมชั่นจูงใจผู้ที่ได้รับสิทธิชิม ช้อป ใช้ มาจับจ่ายซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ประชาชนจะต้องไปด้วยความสมัครใจเท่านั้น หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามเขื่อนไขจะมีการยกเลิกระบบถุงเงิน และขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ในอนาคต

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการ กระทรวงคลังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการร้านค้า จึงอาจมีการเข้าใจวัตถุประสงค์โครงการคลาดเคลื่อน เชื่อว่าหากมีการทำความเข้าใจร่วมกันแล้วจะไม่มีโปรโมชั่นจูงใจประชาชนออกมา โดยวัตถุประสงค์หลักต้องการให้ประชาชนออกไปท่องเที่ยว ส่งเสริมประชาชนทั่วประเทศให้เข้าใจและมีองค์ความรู้ในด้านสังคมไร้เงินสด ไม่ได้ต้องการให้เม็ดเงินกระจุกตัวเฉพาะห้างสรรพสินค้า แต่ต้องการให้เม็ดเงินกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากและเกิดการหมุนเวียน

นายชาญกฤชกล่าวว่า กระทรวงได้รับร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องว่ามีผู้ประกอบการบางรายทำผิดเงื่อนไข เช่น รับสแกนเงิน 1,000 บาทแลกเป็นเงินสด ฯลฯ เบื้องต้นกรมบัญชีกลางได้ลงโทษด้วยการปิดแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” และไม่โอนเงินเข้ากระเป๋าผู้ประกอบการกลุ่มนั้นแล้ว โดยกรมบัญชีกลางยกเลิกสิทธิแล้ว 10 ราย ส่วนใหญ่ที่พบเป็นร้านค้ารายย่อยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

ขณะที่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิจากโครงการที่ทำผิดเงื่อนไขด้วยการแลกเงินสดออกมานั้น อาจมีการตัดสิทธิหรือแบล็กลิสต์รายชื่อในการเข้าร่วมโครงการชิม ช้อป ใช้ เฟส 2 เนื่องจากกระทรวงการคลังมีเอไอตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายของประชาชนผ่านระบบแอปได้ทั้งหมด พร้อมกันนี้ สัปดาห์หน้าคลังจะลงพื้นที่สุ่มตรวจพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในภาคอีสาน และสุ่มตรวจเยี่ยมทั่วประเทศ

ส่วนสาเหตุที่โครงการชิม ช้อป ใช้ เฟส 2 ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น นายชาญกฤชกล่าวว่า กระทรวงต้องการให้โครงการที่ออกมาสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้จริง เนื่องจากเงินที่นำมาใช้เป็นงบประมาณแผ่นดิน ต้องคำนึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้กลับคืนมาอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี คาดว่าเฟส 2 ที่จะออกมาในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ กลุ่มเป้าหมายหลักที่รัฐบาลต้องการคือนักท่องเที่ยวคุณภาพที่พร้อมออกไปจับจ่ายใช้สอย และเป็นการหักลดหย่อนภาษี เป็นต้น

ขณะที่ห้างสรรพสินค้าที่สนใจอยากเข้ามาลงทะเบียนชิม ช้อป ใช้ เฟส 2 นั้น เบื้องต้นยังไม่มีการปิดกั้น และไม่มีการตัดสิทธิห้างสรรพสินค้าเดิมที่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เฟสแรก โดยเฟส 2 เน้นชักจูงร้านค้าสมาชิกธนาคารออมสินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมี 1 แสนร้านค้าเข้ามาร่วมโครงการด้วย เพื่อเป็นตัวช่วยให้โครงการเข้าถึงฐานรากมากขึ้น

ทั้งนี้ ได้มีการขยายเวลาสำหรับร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมชิม ช้อป ใช้ ไม่มีกำหนดปิด จากเดิมที่กรมบัญชีกลางเปิดให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการได้ถึงวันที่ 15 ต.ค. 62