เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 หลายๆ คนอาจจะเจอปัญหาในการเข้าร่วมโครงการ ชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาล ทั้งการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิที่ยุ่งยาก และต้องแย่งคิวตั้งแต่ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนบ้าง หรือการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนไม่ผ่าน จนเกิดภาพประชาชนต้องเดินทางไปแสดงตนที่ธนาคารบ้าง หรือการไปใช้สิทธิแล้วระบบล่มบ้าง จนเกิดเสียงสะท้อนกลับมาในหลายๆ มุมหลายๆ พื้นที่นั้น

ล่าสุดพื้นที่ จ.ชัยนาทก็มีประชาชนร้องเรียนเข้ามายังผู้สื่อข่าวว่าพบพฤติกรรมที่ไม่น่าจะถูกต้องนักของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ โดยผู้ร้องให้ข้อมูลว่าตนมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.อุทัยธานี จึงเลือกใช้สิทธิตามโครงการที่ จ.ชัยนาท โดยเดินทางมาเพื่อซื้อสินค้าที่ร้านร่วมโครงการแห่งหนึ่ง ใน อ.วัดสิงห์ โดยชี้พิกัดว่าอยู่ที่ตลาดภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอวัดสิงห์ และแจ้งว่าเจ้าของร้านมีพฤติกรรมบังคับลูกค้าที่มาซื้อสินค้า จะต้องทำการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตัดยอดใช้สิทธิก่อนเข้าร้าน โดยจะถือวิสาสะตัดยอดทั้งหมด 1,000 บาทจากสิทธิของลูกค้า ถ้ารายใดไม่ยอมก็จะถูกไล่ออกจากร้าน ซึ่งตนก็เช่นกัน เมื่อไม่ยอมให้ตัดยอดแบบเหมายกสิทธิ 1,000 บาทตามที่เจ้าของร้านต้องการ ก็ถูกไล่ออกจากร้าน จนตนเปลี่ยนไม่ซื้อของใช้ หันไปทานข้าวร้านอาหารกับครอบครัวแทน จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบและดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบนางมาเรียม เรืองปราชญ์ คลังจังหวัดชัยนาท หน่วยงานรับผิดชอบโครงการชิมช้อปใช้ เพื่อแจ้งข้อร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งเมื่อคลังจังหวัดชัยนาททราบเรื่องก็บอกว่า พฤติกรรมตามที่แจ้งถือว่าเจ้าของร้านทำผิดระเบียบโครงการ ในวันนี้จะจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เพื่อพูดคุยป้องปรามให้เลิกทำพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว และจะขึ้นบัญชีดำไว้ หากมีการร้องเรียนเข้ามาอีกก็จะเพิกถอนร้านออกจากโครงการทันที พรอ้มทั้งฝากถึงประชาชนที่พบเห็นร้านค้าโครงการชิมช้อปใช้ที่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลให้แจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดได้ทุกแห่งทั่วประเทศ