‘ทวี’ ยันต้องแก้รัฐธรรมนูญและ รธน.เขียนไว้ให้แก้ได้ แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ย้ำมติไม่แตะหมวด 1-2

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้เดินทางไปร่วมเสวนาในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน อนาคตของรัฐธรรมนูญไทย” ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2562 ระหว่างเวลา 13.00-16.00 น ซึ่งจัดโดยกลุ่มเครือข่ายองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี;ซึ่งมีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้แทนกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้าและนาย รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ณ วิทยาลัยอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และในการนี้พันตำรวจเอก ทวีย้ำว่า มีความจำเป็นที่จะต้องแก้รัฐธรรมนูญและ รธน.เขียนไว้ให้ทำได้ แผนรัฐบาลได้แถลงนโยบายไว้ในข้อ 12 ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนนอกจากนี้ก่อนปิดประชุมสมัยสภาครั้งที่แล้วพรรคการเมืองต่างๆได้เสนอที่จะศึกษาและแสดงเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทุกฝ่ายต้องขับเคลื่อนร่วมกัน อีกทั้ง ทุกคนต้องมีส่วนร่วม และพรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค มีมติที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญใน หมวดที่ 1 และ หมวดที่ 2 ซึ่งเป็นความเห็นรวมกัน และโดยส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติจากประชาชนมา ดังนั้นเรื่องความชอบธรรมในการแก้หรือไม่ หากทำประชามติรัฐก่อนได้จะสร้างการยอมรับจากทุกฝ่าย เมื่อมีการทำประชามติแล้วผลออกมาอย่างไรถือเป็นความประสงค์ของประชาชน


นอกจากนี้ การแก้รัฐธรรมนูญจะต้องไม่ใช้ความรู้สึก ต้องใจกว้างและต้องอย่างเช่นในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาใน 28 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศของเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ภายใต้คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จำนวน 3,000 คน พบว่า นักศึกษาที่มีอายุประมาณ 18 ปีแทบทุกคน หรือร้อยละ 95.1 ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 ต้องการให้แก้ไขโดยยกร่างใหม่ทั้งฉบับและที่เหลือร้อยละ 36.1 ต้องการให้มีการแก้ไขรายมาตรา เป็นต้น

นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวียังกล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดต้องคืนสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับประชาชน รวมถึง ต้องธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมและที่ผ่านมายังไม่มีรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดและถูกนำมาบังคับใช้เลยในประเทศไทย ตลอดจน การได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยของไทยแต่ละครั้ง หรือ อย่างน้อย 4 ครั้ง ก็ต้องเสียเลือด เสียเนื้อ และเมื่อฝ่ายการเมืองซึ่งมาจากการเลือกตั้งได้ปกครองประเทศก็มักประสบชะตากรรมทางการเมือง หรือ มีอันเป็นไป รวมถึง เปิดช่องให้กองทัพใช้เป็นเหตุและกล่าวอ้าง พร้อมทั้ง กรูกันเข้ายึดอำนาจและล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยไปพร้อมๆกับการฉีกรัฐธรรมนูญซึ่งทุกคนบอกว่าเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ

“การกระทำของกองทัพ เป็นสิ่งขัดแย้งกับความเป็นจริงเพราะสิ่งที่สูงที่สุดจะต้องเป็นสิ่งที่แตะต้อง หรือทำลายล้างมิได้ และทุกครั้ง หรือ ภายหลังจากที่มีการฉีกรัฐธรรมนูญ ก็จะระดมเอานักวิชาการ หรือ บรรดาตุลาการซึ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้หวังดีเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญและนำมาบังคับใช้ อีกทั้ง รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นแต่ละฉบับ โดยเฉพาะฉบับปัจจุบัน ก็เข้าลักษณะที่นำไปใช้เป็นเครื่องมือ หรือ ยังประโยชน์ให้กับตนและหมู่พวก หรือ เข้ากับลักษณะที่ว่า ชนใดร่างกฎหมายก็เพื่อประโยชน์ของคนชั้นนั้น ” พันตำรวจเอกทวี กล่าวในที่สุด