‘จุรินทร์’เปิดบ้านมั่นคง รับผู้แทนยูเอ็น ลั่นคนไทยทุกครัวต้องมีที่อยู่อาศัยปี2579

ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) คลองจั่นบางกะปิ กทม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน บ้านมั่นคงโดยชุมชนทุกคนร่วมกันสร้าง (Collective Housing) เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก (World Habitat Day) ในภารกิจรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (กอช.) โดยกล่าวว่า โครงการบ้านมั่นคงประสบความสำเร็จในการจัดการที่อยู่อาศัยโดยชุมชนตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคงนี้ได้ส่งผลให้ประชาชนในชุมชนจำนวนมากที่เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยทั้งในเมืองและชนบทมีที่อยู่อาศัย และสิทธิในที่ดินสำหรับการอยู่อาศัยทำกินที่มั่นคงขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากความสำเร็จนี้ ทราบว่ามีพัฒนาการต่อเนื่องนับจากปี 2535 รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ซึ่งขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีร่วมคณะ และจากนั้นทุกรัฐบาลได้ดำเนินการมา เรามีทิศทางการเดืนหน้าตามแผนแม่บท และรัฐบาลนี้ก็ดำเนินการสานต่อ ถัดจากนี้ไปคือภายใน 20 ปีจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านหลังโดยประมาณเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่ประชาชนฝันไว้ และการมีที่อยู่อาศัยถือเป็นสิทธิประชาชน รัฐบาลจะเดินไปสู่เป้าหมายที่ประชาชนคาดไว้ หวังว่าภายใต้ความร่วมมือของทุกคนจะสามารถประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้ และอยากขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่พยายามช่วยกันทำงาน และ ยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมจะทำตามนโยบายนี้ต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวว่า งานพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน งานพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทยมีแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับชาติ รวมทั้งกลไกคณะกรรมการทั้งระดับชาติและระดับจังหวัด และการดำเนินงานจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งเครือข่ายชุมชนท้องถิ่น ภาควิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ  ขอขอบคุณความร่วมมือร่วมใจเหล่านี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทยบรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และวาระใหม่ในการพัฒนาเมือง โดยไทยพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อยให้เพื่อนบ้านจากอาเซียนและประเทศอื่นๆ มาร่วมเรียนรู้ นำไปปรับใช้ในบริบทของแต่ละประเทศต่อไป และหลังจากนี้หวังว่าทุกภาคส่วนจะมุ่งมั่นตั้งใจที่ร่วมกันดำเนินภารกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้บรรลุเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน

นอกจากนั้น ในตอนหนึ่งของงาน นายจุรินทร์ ยังประกาศพร้อมนำกระทรวงพาณิชย์มาทำข้อตกลง หรือให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนในโครงการบ้านมั่นคงในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย และในคำถามเรื่องนโยบายโฉนดชุมชนเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงต่อชีวิตนั้นก็จะนำมาสานต่ออย่างต่อเนื่อง

รายงานจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ระบุว่า ความสำเร็จในวันนี้ ทำให้หน่วยงานอื่นๆ จากประเทศต่างๆ สนใจมาศึกษาดูงานและเป็นที่น่ายินดีว่าบ้านมั่นคงที่เดิมทำเฉพาะสำหรับแก้ปัญหาชุมชนแออัดในเมือง ได้ขยายสู่บ้านมั่นคงในชนบท รวมทั้งการซ่อมสร้างบ้านตามโครงการบ้านพอเพียงชนบท ดังนั้นรัฐบาลจึงมีความยินดียิ่งในการให้การสนับสนุนโครงการบ้านมั่นคงนี้ ด้วยการยึดแนวทางตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs)โดยหนึ่งในเป้าหมายดังกล่าวคือ “การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความสามารถในการปรับตัว มีภูมิต้านทานและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงให้เกิดสุขภาวะอย่างครอบคลุมและยั่งยืน”

และนายจุรินทร์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (กอช.)มีความเชื่อมั่นว่าบ้านเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาชีวิต และการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ทั้งนี้ หากชุมชนผู้เดือดร้อนได้มาร่วมมือกันหาทางแก้ไขปัญหา โดยมีหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบดูแลที่ดินรัฐ เข้ามาร่วมดำเนินการและสนับสนุน และสามารถอนุญาตให้ชุมชนได้อยู่อาศัยหรือเช่าระยะยาวอย่างถูกต้อง ก็จะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินที่รวดเร็วและมีประสิทธิผลขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีรายได้ สวัสดิการ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย

รายงานแจ้งว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายไว้อย่างชัดเจนในการพัฒนาความเข้มแข็งจากฐานราก สร้างความเข้มแข็งของชุมชน สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน สร้างชุมชนที่น่าอยู่ มุ่งเน้นการจัดการที่อยู่อาศัย การพัฒนาทักษะอาชีพ และพัฒนาพื้นที่เมืองแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง สังคมที่เอื้ออาทร สร้างเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็ง รัฐบาลนี้ได้สานต่อแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579 โดยมีคณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งตนเป็นประธานเป็นกลไกกำกับติดตาม คลี่คลายปัญหาข้อติดขัดในการดำเนินงานแผนแม่บทดังกล่าว  ซึ่งผมในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติก็พร้อมที่จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยอย่างเต็มที่