กมธ.พลังงานจี้เลิกดึงซีพีโอผลิตไฟฟ้า ‘สนธิรัตน์’ยันดันบี10ดูดซับซีพีโอแทน

กมธ.พลังงานจี้เลิกดึงซีพีโอผลิตไฟฟ้า ‘สนธิรัตน์’ยันดันบี10ดูดซับซีพีโอแทน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายกิติกร โล่ห์สุนทร ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎรพร้อมคณะได้เข้าหารือกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมผู้บริหารระดับสูง ซึ่งทางคณะกรรมาธิการได้ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่ให้การการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)นำน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ)ไปเป็นเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง โดยนายสนธิรัตน์ยืนยันว่ากฟผ.ดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่อนุมัติให้ดำเนินการให้ครบ2แสนตัน หลังจากนั้นจะไม่มีการนำไปผลิตไฟฟ้าอีกต่อไป เนื่องจากกระทรวงพลังงานได้ผลักดันการใช้น้ำมันดีเซลบี 10 ให้เป็นน้ำมันพื้นฐานเริ่ม 1 มกราคม 2563 สามารถดูดซับซีพีโอได้มากขึ้น นอกจากนี้คณะกรรมาธิการฯยังได้ขอรับทรายนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ซึ่งกระทรวงพลังงานยืนยันที่จะร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และคลังจัดทำแพคเกจเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้ในช่วงปลายปีนี้

“กระทรวงพลังงานได้ยืนยันว่าการดำเนินงานของกฟผ.ที่ผ่านมาทำตามมติคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ(กปน.) ที่ได้เสนอครม.อนุมัติเพื่อเร่งดูดซับซีพีโอระยะเร่งด่วนซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วงช่วงแรก 1.6 แสนตันจัดซื้อครบแล้ว และช่วงที่ 2 จำนวน 2 แสนตันจัดซื้อไปเพียง 6.6 หมื่นตันยังเหลือ 1.33 แสนตันทางครม.ได้ให้เร่งรัดซื้อให้ครบซึ่งกฟผ.อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งหมดล็อตนี้แล้วกระทรวงพลังงานยืนยันว่าจะไม่มีอีก”นายกุลิศกล่าว

นายกุลิศกล่าวว่า กรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดการนำซีพีโอไ ปผลิตไฟฟ้าจึงไม่ดำเนินการที่โรงไฟฟ้ากระบี่ทั้งที่ระยะทางไกลกว่าในเรื่องนี้ทางตัวแทนของกฟผ.ได้ชี้แจงว่าโรงไฟฟ้ากระบี่ต้องเดินเครื่องผสมด้วยน้ำมันเตาเมื่อนำซีพีโอไปร่วมผลิตจะทำให้ต้นทุนค่าไฟแพงกว่าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงที่เป็นโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมาธิการที่ต้องการสนับสนุนให้มีการใช้ดีเซลบี 10 นั้นเป็นการถาวรไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนไปมาเช่นอดีตนั้นทาง นายสนธิรัตน์ ได้ยืนยันว่าเป็นนโยบายที่จะควบคุมดูแลในประเด็นนี้อยู่แล้วโดยเมื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานวันที่ 1 มกราคม 2563 ภายในไตรมาส 2 คาดว่าจะทำให้การใช้บี 10 อยู่ที่ 57 ล้านลิตรต่อวัน ขณะเดียวกันยังส่งเสริมการใช้ดีเซลบี20เป็นน้ำมันทางเลือกให้กับกลุ่มรถบรรทุกอีกด้วย และนโยบายดังกล่าวยังช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองไม่เกิน2.5ไมครอน(PM2.5)ซึ่งสอดรับกับความเห็นของคณะกรรมาธิการฯที่ต้องการให้เร่งแก้ไขปัญหานี้

นอกจากนี้คณะกรรมาธิการฯยังได้ขอรับทรายนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ซึ่งกระทรวงพลังงานยืนยันที่จะร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และคลังที่จะจัดทำแพคเกจเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้ในช่วงปลายปีนี้ เป็นต้น