‘ณรงค์’ รับโจทย์ ‘เสมา1’ เน้นพัฒนาสอนวิชาชีพให้ตอบโจทย์ความต้องการแรงงานของประเทศ

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. ได้มอบโจทย์สำคัญให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) คือ หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง สอศ.จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไรบ้าง ซึ่งทางสอศ. ได้จัดหน่วยอาชีวะอาสา หรือศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน หรือ Fix it Center ซึ่งมีนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ในสถานศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด ที่มีจิตอาสาเข้าช่วยเหลือประชาชน ชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยจะเข้าไปซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ เป็นต้น

นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สอศ. ยังจัด Fix it Center เคลื่อนที่เพื่อให้บริการในส่วนของการซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เช่น อุปกรณ์ปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น โดยมีจุดให้บริการ กว่า 60 จุด ทั่วจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ซึ่งสอศ.จะเร่งฟื้นฟูช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำลดอย่างเต็มที่ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและศธ. ให้ประชาชนได้รับบริการจากหน่วยงานของรัฐบาลและกลับสู่สภาพปกติได้ในที่สุด

“นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ยังมอบโจทย์สำคัญที่ สอศ.จะต้องมุ่งเน้นพัฒนาต่อไปคือ การพัฒนาวิชาชีพ ที่ปัจจุบันมีวิชาชีพเกิดขึ้นใหม่มากมาย ทำให้มีความต้องการแรงงานที่ตอบสอนความต้องการกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม การบินและโลจิสติกส์ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์อัจริยะ การแปรรูปอาหาร เป็นต้น สอศ.ต้องพัฒนาการเรียนการสอนวิชาชีพใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศยังมีแรงงานที่ตอบสนองความต้องการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และตามบริบทของแต่ละพื้นที่นั้นๆ ยังมีไม่เพียงพอ หากสอศ.พัฒนาสอนวิชาชีพใหม่ๆ ได้ จะตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน และจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ที่จะสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศด้วย ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ผมจะไปหารือกับทีมงานของ สอศ.ถึงแนวทางการพัฒนาต่อไป” นายณรงค์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สวทอ.) ออกเรียกร้องขอให้รัฐช่วยสนับสนุนพัฒนา เพราะหลังจากที่ย้ายมาอยู่ในสังกัด สอศ.แล้ว ประสบปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นด้านบริหารงาน และการบริหารงบประมาณ นักเรียนนักศึกษาลดลงอย่างมาก และมีแนวโน้มที่หลายแห่งจะปิดกิจการ จนอยากจะกลับไปอยู่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ตามเดิม นายณรงค์ กล่าวว่า ในประเด็นนี้ตนขอไปศึกษารายละเอียด เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป