“เทพไท” เตือน สภาชุดนี้ไม่ใช่สภาฝักถั่ว หากงบ63ไม่ผ่าน นายกฯยุบสภาเลือกตั้งใหม่

“เทพไท” เตือน หากงบ63ไม่ผ่าน นายกฯยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนเดือนร้อนคือนักการเมือง แต่ปชช.จะยินดีเพราะเงินสะพัดยิ่งกว่าชิม ช้อป ใช้

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมสภาสมัยวิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 63 ว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯของรัฐบาล ถือว่าเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล เพราะถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบทางการเมือง คือไม่ยุบสภา ก็ต้องลาออก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ และให้เวลาในการพิจารณาอย่างเต็มที่ ต้องให้โอกาสสมาชิกทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่อย่างเปิดกว้างด้วย อย่างไรก็ตามต้องยอมรับความจริงว่า สภาฯชุดนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนทั่วทั้งประเทศ จะใช้มาตรฐานเหมือนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ไม่ได้ เพราะ สนช.ใช้เวลาพิจารณางบประมาณวงเงิน 3 ล้านล้านบาท เพียง 30นาทีก็ผ่านได้โดยสะดวก ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุด จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักว่า สภาฯชุดนี้ไม่ใช่สภาฝักถั่ว ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นอภิปรายคัดค้าน หรือสนับสนุนงบประมาณของรัฐบาลชุดนี้อย่างไรก็ได้

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการกำหนดวันเวลาประชุมของฝ่ายรัฐบาลเพียง2วันอาจจะไม่เพียงพอ ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านอยากให้เปิดอภิปราย 5 วันก็เป็นเวลาที่มากเกินไป ส่วนตัวเห็นว่าจำนวนวันเวลาที่เหมาะสมน่าจะใช้เวลาประชุมจำนวน3วันน่าเพียงพอ และควรจะเปิดโอกาสให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอภิปรายในสัดส่วนเวลาที่ใกล้เคียงกัน เพราะในการประชุมทุกๆครั้งที่ผ่านมา ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะเสียเปรียบเรื่องเวลาในการอภิปรายอยู่เสมอ จะถูกวิปสั่งให้รวบรัดการอภิปรายในเวลาที่จำกัด โดยมีข้ออ้างว่า เป็นฝ่ายรัฐบาลไม่ควรอภิปรายอะไรมากมาย ถือว่าเป็นการปิดกั้นการทำหน้าที่ของ ส.ส. เพราะ ส.ส.ทุกคนอยากจะสะท้อนปัญหาของประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเอง เพื่อให้รัฐบาลได้รับทราบและนำไปแก้ไขปัญหาด้วย

ส่วนการที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถ้างบประมาณไม่ผ่านจะเดือดร้อนทั้งประเทศนั้น นายเทพไท กล่าวว่าไม่คิดว่าเป็นการส่งสัญญาณหรือข่มขู่ทางการเมือง แต่นายกฯอาจจะเป็นห่วงว่า ถ้างบประมาณไม่ผ่านสภาฯ ประเทศก็จะไม่มีงบประมาณแผ่นดินใช้ ต้องนำงบประมาณปี62 มาใช้ชั่วคราวเฉพาะส่วนงบรายจ่ายประจำเท่านั้น แต่งบพัฒนาหรืองบลงทุนใช้ไม่ได้ จึงเป็นการสร้างความเดือดร้อนในทุกภาคส่วน แต่ถ้าหากงบประมาณไม่ผ่านสภาฯจริง นายกฯจะใช้สิทธิ์ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ คนที่เดือดร้อนคือ นักการเมือง พรรคการเมือง และรัฐบาลเท่านั้น สำหรับประชาชนทั้งประเทศจะยินดีปรีดามากกว่าเดือดร้อน เพราะจะได้มีโอกาสเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจการเงินสะพัดมากกว่าโครงการ ชิม ช้อป ใช้ หลายเท่า