คลังขึ้นบัญชีดำห้างบังคับซื้อ ‘ชิมช้อปใช้’ 1,000 บาท ให้สแกนเป๋าตังก่อนเลือกสินค้า-ชี้แลกเป็นตั๋วเงินสดก็ไม่ได้

ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังเตือนผู้ประกอบการอย่าเอาเปรียบผู้ที่ได้รับสิทธิ์ 1,000 บาท จากโครงการ “ชิมช้อปใช้” หากตรวจพบจะจัดการขั้นเด็ดขาด พร้อมตัดสิทธิ์เข้าร่วมทุกโครงการ แนะผู้ลงทะเบียนไม่จำเป็นต้องใช้เงินทั้งหมดในครั้งเดียว สามารถใช้ส่วนที่เหลือไปจนถึง 30 พฤศจิกายน 2562

แหล่งข่าวจากกระทรงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมา มีการร้องเรียนจากประชาชนว่าไปใช้บริการยังโมเดิร์นเทรดชื่อดัง แล้วให้ลูกค้าสแกนจ่ายเงินไปก่อนในวงเงิน 1,000 บาท  โดยออกเป็นตั๋วเงิน หรือคูปองเงินสดจำนวน 1,000 บาทให้ไปซื้อ นอกจากนี้ยังพบซูเปอร์มาร์เก็ตบางจังหวัดให้ลูกค้าสแกนเป๋าตังเพื่อจ่ายเงินไปก่อนจำนวน 1,000 บาท และให้ไปเลือกซื้อสินค้าในร้านให้ครบ 1,000 บาท สินค้า ซึ่งลูกค้าบางรายไม่ได้ต้องการใช้จ่ายจนครบ 1,000 บาท จึงร้องเรียนขอให้กระทรวงการคลังช่วยตรวจสอบ

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนพากันไปจับจ่ายใช้สอยผ่านแอ็ป เป๋าตัง เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตาม อาจส่งผลให้ร้านค้าหรือห้างสะดวกซื้อบางแห่งมีคนต่อแถวเพื่อรอคิวเป็นเวลานานกว่าปกติ แต่ผู้ประกอบการก็พยายามที่จะวางระบบบริหารการจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอย่างเต็มที่

ทั้งนี้กระทรวงการคลังขอย้ำเตือนผู้ประกอบการห้างร้านว่า ห้ามไม่ให้มีการเอาเปรียบประชาชนที่ได้รับสิทธิ์จากโครงการดังกล่าว เช่น ออกคูปองจำนวน 1,000 บาท หรือเงื่อนไขอื่นใดเพื่อให้ประชาชนซื้อของเฉพาะในห้างหรือร้านของตัวเองเต็มวงเงิน เพราะหากได้รับการร้องเรียน เเละมีการตรวจพบว่ากระทำการลักษณะดังกล่าวจริง ก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการยกเลิกสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการทันที รวมถึงขึ้นบัญชีดำสำหรับการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ในอนาคต

นายชาญกฤช กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ยังแนะนำประชาชนว่าหลังจากได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์และมีการเปิดใช้ครั้งแรกภายในระยะเวลา 14 วันแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมดภายในครั้งเดียวเท่านั้น เงินส่วนที่เหลือยังนำไปใช้ยังสถานที่อื่นๆ ภายในจังหวัดที่ลงทะเบียนเอาไว้ได้ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 โดยสามารถใช้ซื้อสินค้าจำเป็นที่ใช้ในครัวเรือน ซื้ออาหาร หรือใช้เป็นค่าที่พักในการเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องใช้จนหมดในครั้งครั้งแรกครั้งเดียว ที่สำคัญยังสามารถเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าที่ 2 เพื่อนำไปใช้ยังสถานที่ต่างๆ ได้ทั่วประเทศ โดยจะได้รับเงินคืนสูงสุด 15% หรือ 4,500 บาท ต่อคน หลังสิ้นสุดโครงการ 30 พฤศจิกายน 2562 และเงินดังกล่าวจะได้รับคืนไม่เกิน 1 เดือนหลังสิ้นสุดโครงการ