ตะลึง!ประกาศขายที่ดิน 20 ไร่ ป่าชายเลนอ่างศิลา มูลค่า 460 ล. ‘วราวุธ’ สั่ง ทช.เร่งสอบข้อเท็จจริง

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายอภิชัย เอกวนากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน นายสถาพร บุตรดา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 นายถนอมศิลป์ สุขสัมพันธ์ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ชลบุรี นายรัชชัย พรพา หัวหน้าชุดปฏิบัติการฉลามขาว และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ทช. ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กระบุว่ามีการถมพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี (คลองบางโปรง ริมถนนบางแสน-อ่างศิลา) อีกทั้งติดป้ายประกาศขายที่ดินแปลงดังกล่าว เนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน ราคากว่า 460 ล้านบาท

นายโสภณกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าพื้นที่แปลงดังกล่าวมีการถมและปรับระดับพื้นดิน สภาพโดยรวมมีเพียงหญ้าและวัชพืชขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ นอกจากนี้ ได้ตรวจสภาพพื้นที่โดยรอบจากกูเกิล เอิร์ธ (google earth) และเอกสารการถือครองที่ดินผ่านเว็บไซต์กรมที่ดิน สรุปเบื้องต้นได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธเป็นโฉนด จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ เอกสารสิทธิเลขที่ 222006, 222007, 222008, 222009, และ 222010 ทั้งนี้ พื้นที่ทุกแปลงอยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 จึงได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ทำหนังสือขอสารบบที่ดินแปลงนี้ จากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี เพื่อส่งให้กองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ตรวจสอบโดยการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศและเส้นแนวเขตป่าชายเลน รวมทั้งตรวจพิสูจน์หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินว่าถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าการได้มาหรือการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ก็จะได้แจ้งกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และเร่งด่วนมากตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ ทส.ที่มอบให้กับทุกหน่วยงาน ว่าจะไม่ยินยอมให้บุคคลใดหรือนายทุนรายใดมายึดถือครอบครองป่าชายเลนซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของชาติไปเป็นสมบัติส่วนตัวอย่างเด็ดขาด อีกทั้งปลัด ทส.นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ได้ย้ำมาเป็นกรณีพิเศษว่า ต้องเร่งตรวจสอบสร้างความกระจ่างให้สังคมให้ได้โดยเร็ว โดยในระหว่างนี้ ทช.พยายามประสานเจ้าของที่ดินเพื่อขอตรวจสอบที่มาที่ไปในที่ดินแปลงดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้” นายโสภณกล่าว