‘จาตุรนต์’ ยกเหตุการณ์เยอรมันรวมชาติ เป็นแรงบันดาลใจ หวังไทยมีปชต.แบบสันติได้

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเล่าเรื่องการไปร่วมงานวันชาติเยอรมัน พร้อมรำลึกเหตุการณ์รวมเยอรมันตะวันตก และตะวันออก โดยหวังว่าไทยจะมีประชาธิปไตยแบบสันติได้ จากเหตุขัดแย้งอย่างรุนแรงของขั้วความคิด โดยระบุว่า

เมื่อคืนนี้ไปงาน German Unity Day มาครับ ปีนี้ครบ 30 ปีของการรวมชาติเยอรมนี

รูปที่ผมโพสต์นอกจากถ่ายในงานขณะคุยกับท่านทูต Georg Schmidt แล้ว เป็นรูปที่ผมถ่ายเองในกรุงเบอร์ลินเมื่อพฤษภาคม 2558 ก่อนที่ผมจะถูกยกเลิกพาสปอร์ตไม่นาน ภาพหนึ่งถ่ายบริเวณที่เคยเป็นด่านผ่านระหว่างเบอร์ลินตะวันตกกับเบอร์ลินตะวันตก ส่วนอีกรูปเป็นรูป Checkpoint Charlie ในอดีตจากนิทรรศการซึ่งแสดงอยู่ใกล้ๆนั้น

เสียดายที่ผมไม่มีรูปกำแพงเบอร์ลินที่เคยถ่ายไว้เมื่อ 30 กว่าปีก่อนเสียแล้ว ผมเคยไปข้ามไปข้ามมาระหว่างเบอร์ลินตะวันตกกับตะวันออกอยู่ 2 ครั้งเมื่อประมาณปี 2529-30 ครั้งหนึ่งไปในฐานะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฏร อีกครั้งได้รับเชิญจากมูลนิธิของเยอรมนีในคณะนักการเมืองหนุ่มสาว (ยังหนุ่มมาก)

ขณะนั้นเศรษฐกิจเยอรมันตะวันออกแย่มากแล้ว ตอนไปเดินซื้อของตามร้าน บางคนเจอของถูกใจ แต่มีของขายอยู่น้อยมาก อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ผลิต บรรยากาศที่กำแพงเบอร์ลินเมื่อประมาณ 32-33 ปีก่อนดูทะมึน น่ากลัว อาจจะเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนนั้นด้วย ไปยืนอยู่ฝั่งตะวันออกเห็นหนุ่มสาวชาวเยอรมันตะวันออกแต่งตัวประหลาดคล้าย punks อยู่กันเป็นกลุ่มๆ แต่ทั้งๆที่รู้ว่าเยอรมันตะวันออกและยุโรปตะวันออกรวมทั้งสหภาพโซเวียตกำลังแย่ ก็ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเยอรมันตะวันออกกับตะวันตกจะรวมกันในอนาคตอันใกล้ได้อย่างไร

แต่ เพียง 2-3 ปีต่อมา มีเพื่อนคนไทยหนึ่งไปเที่ยวกรุงเบอร์ลินมา ส่งของที่ระลึกมาให้ทางไปรษณีย์ เปิดดูเป็นก้อนอิฐก้อนเล็กๆพร้อมคำอธิบายว่าเป็นชิ้นส่วนของกำแพงเบอร์ลินที่ถูกทำลายลงแล้ว ยังจำได้ว่าผมรู้สึกทึ่งมากในขณะนั้น

เรื่องการรวมเยอรมนีตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกันได้นี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผมมาตลอด เช่นเดียวกับที่ท่านทูตใช้คำว่า miracle ตอนที่กล่าวสปีชเมื่อวาน นอกจากนั้นการรวมกันได้โดยสันติไม่เกิดความรุนแรงทั้งๆที่สองฝ่ายมีความขัดแย้งแตกต่างทางความคิด อุดมการณ์และระบบการปกครองอย่างมาก ยังเป็น inspiration ที่ทำให้ผมมีความหวังว่าการทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยโดยสันติวิธีก็น่าจะเป็นไปได้เช่นกัน