‘บิ๊กตู่’ ชู เกษตรกร รากแก้วแผ่นดิน แนะเปลี่ยนแปลง-เรียนรู้ มิฉะนั้นลูกหลานลำบาก

“บิ๊กตู่” ชู เกษตรกร คนส่วนใหญ่ประเทศ ยึดแผ่นดินไว้จนทุกวัน​นี้ บอก​ ไม่เคยดูถูก​ เรียก​ “รากแก้ว” ตลอด​ เผยเลิกอ่าน นสพ.สบายใจมาหลายวัน ยอมรับ​ พูดเร็ว-พูดเยอะ​ ต้องขอโทษ​ แต่หลายคนก็ไม่อยากจะเข้าใจ​ ไม่รู้เป็นใคร

เมื่อวันที่​ 3 ตุลาคม​ ที่ห้องมิราเคิล แกรนด์ บอลรูม เอ ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์​ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ เป็นประธานพิธีมอบนโยบายแก่สภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยกล่าวตอนหนึ่ง​ ว่า​ วันนี้อาชีพเกษตรกรรมจะต้องมีการจัดระเบียบให้ดี​ ขอฝากนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์​ ประธานสภาเกษตรกร​แห่งชาติ และคณะกรรมการทุกคน ช่วยกันทำความเข้าใจง่ายๆ ให้เกษตรกร ซึ่งบางทีตนอาจจะพูดเยอะ และบางทีก็ฟังไม่ทันบ้าง ก็อย่าว่าตน ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน เพราะตนต้องคิดเร็ว ทำให้บางทีพูดเร็วไป บางทีอาจจะเข้าใจยาก และมีหลายคนไม่อยากจะเข้าใจ ไม่รู้เป็นใคร เวลาลุงตู่พูดไม่เข้าใจ แปลกดี แต่ตนคิดว่าพวกเรามาด้วยกัน และเดินมาด้วยกันตลอด​ 5 ปีที่ผ่านมา และปีนี้เป็นการเริ่มต้นรัฐบาลเลือกตั้ง มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ตนก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน และยังไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ยังสามารถทำงานได้อยู่ และตนจะให้แนวทางสนับสนุนการทำงานกับพวกท่าน ซึ่งขณะนี้สภาเกษตรกรฯ ก็อยู่ในการขับเคลื่อนของนายกฯ อยู่แล้ว

นายกฯกล่าวว่า หลังจากได้คุยกันคงไม่ใช่เรื่องเงินเรื่องทองอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของแผนงานโครงการต่างๆ สิ่งสำคัญสุดคือ พวกท่านจะเป็นกลไกกลางให้ตนในการสร้างความเข้าใจระหว่างรัฐบาลกับเกษตรกร ถ้าไม่มีกลไกนี้จะไปไม่ได้ แม้มีงบลงไปก็ทำไม่ได้

“วันนี้สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำคือการตัดเสื้อเฉพาะตัวให้เกษตรกรแต่ละชนิด ทำการตลาดให้แต่ละชนิด ส่งเสริม สร้างมาตรการให้แต่ละชนิด แต่ละประเภท มันถึงจะโตไปพร้อมๆ กัน ทำให้ดีมานด์ ซัพพลายสอดคล้องกัน จะต้องตัดเสื้อให้ตรงตัว เพื่อใช้งบประมาณน้อยลง ใช้ผ้าให้น้อยลง จะได้เกิดประโยชน์สูงสุด ฉะนั้น วงจรภาคเกษตร พี่น้องเกษตรกรคือฐานราก รากแก้ว ผมไม่ได้ดูถูก ใครจะไปเรียกท่านอย่างอื่น ผมไม่เคยเรียก ท่านคือรากแก้วของแผ่นดิน ที่ยึดแผ่นดินของเราไว้จนทุกวันนี้ เกษตรกรทั้งนั้น ดังนั้นท่านคือคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินของประเทศ จะมีน้ำบ้างไม่มีน้ำบ้างก็อยู่กันมา ท่านคือผู้รักษาแผ่นดินมาโดยตลอด วันนี้ทำอย่างไรให้แผ่นดินผืนนี้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการพัฒนาเรียนรู้ปรับเปลี่ยน​ ไม่เช่นนั้นไม่ทันแน่ ลูกหลานจะลำบากกว่านี้ ถ้ายังทำแบบดั้งเดิม” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ประเทศเราเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ฝนแล้ง ความขัดแย้ง แค่สามเรื่องก็แย่แล้ว วันนี้ยังเจอสงครามการค้า ความขัดแย้งในภูมิภาค ในโลกเข้าไปอีกซึ่งมีผลกระทบทั้งโลก ไม่ใช่ประเทศไทยไม่เกี่ยว มันไม่ใช่ แต่เป็นตลาดส่งออกของเราทั้งสิ้น 70% ของผลผลิต ไทยส่งออกนอกประเทศ ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำเขาไม่ซื้อ 70%นั้นจะมาได้อย่างไร เพราะเราใช้ในประเทศแค่ 30% ดังนั้น เราต้องผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา โดยดูปลายทางให้ดีด้วย

นายกฯกล่าวว่า เรื่องน้ำท่วมฝนแล้ง ความขัดแย้ง ซึ่งความขัดแย้งอยู่ที่เราทั้งหมด ถ้าเราไม่ฟังเขามากก็ไม่ขัดแย้งกับใคร “วันนี้ผมสบายใจมาหลายวัน เพราะผมไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ลองไม่อ่านแล้วรู้สึกดีมีความสุข มันไม่ไหว แต่ก่อนผมอ่านมากเพราะอยากรู้ แต่พออ่านไปอ่านมา แทนที่ผมจะได้อะไร แต่กลับไม่ได้อะไรเลย เพราะได้แต่ความโมโห สิ่งที่ผมทำมันไม่ใช่อย่างนี้ ไปคิดกันแบบนี้มันไม่ถูก แต่สื่อดีๆ ก็มีอยู่นะ นั่งอยู่ข้างหลังเยอะ เดี๋ยวมาเล่นงานผมอีก ขอโทษด้วย ต่างคนต่างต้องรักษาน้ำใจกันไว้บ้างก็แล้ว”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลใช้งบประมาณเยียวยาน้ำท่วมหลายหมื่นล้าน ทั้งนี้ รัฐบาลนี้บริหารจัดการน้ำมากกว่า 4 เท่าของรัฐบาลที่ผ่านมา จากเท่าที่มีข้อมูลมา ที่ทำมาเมื่อก่อนต้องซ่อมทั้งหมด เพราะมันนานแล้ว วันนี้เราไม่สามารถสร้างเขื่อนใหม่ได้ต้องสร้างอ่างเก็บน้ำ ทำแก้มลิง เช่าที่ประชาชน กำลังให้เขาดูอยู่ วันนี้ขอฝากด้วยไม่ใช่เฉพาะการปลูกพืช ต้องดูเรื่องการระบายน้ำ