วันที่ 3 ตุลาคม 2562 นายศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ กล่าวถึงกรณีที่นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มอบให้ผู้แทนเข้ายื่นคำกล่าวหาขอให้ป.ป.ช. พิจารณาไต่สวนและดำเนินการอื่นๆ ต่อนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาในขณะนั้น เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอของนายวัส ที่ต้องการให้ประธานศาลฎีกา แต่งตั้งผู้ทำการแทน กสม.ที่ลาออกจากตำแหน่งซึ่งมีกรรมการเหลือเพียง 2-3 คน ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ว่า การแจ้งความของนายวัส น่าจะเกิดจากความไม่เข้าใจและความสับสนในข้อกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อกำกับดูแลกิจการของ กสม.

เนื่องจากกฎหมายนี้ ไม่ได้บังคับว่าประธานศาลฎีกาจะต้องมีหน้าที่แต่งตั้ง กรรมการชั่วคราวแทนตำแหน่งที่ว่างลง เเต่ความจริงกฎหมายนี้ เพียงเปิดช่องให้ประธานศาลฎีกาอาจใช้ดุลพินิจ แต่งตั้งกรรมการชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่แทน แต่ไม่ได้หมายความว่า คำร้องขอของนายวัสเมื่อมีไปยังประธานศาลฎีกาแล้ว ประธานศาลฎีกาจะต้องทำตามคำร้องขอของนายวัสทุกกรณี

นายศรีอัมพร กล่าวว่า ประธานศาลฎีกามีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะดำเนินการหรือไม่ดำเนินการ โดยคำนึงถึงเหตุผลความเหมาะสมสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม ซึ่งดุลพินิจเช่นนี้เป็นอำนาจเด็ดขาดของประธานศาลฎีกาเเละเมื่อมีการใช้ดุลพินิจเช่นนี้แล้ว ก็ไม่อาจมีผู้ใดมีสิทธิมาร้องโทษหรือกล่าวโทษ

จึงขอเตือนสติในวัสว่า การกระทำใดๆ ในฐานะองค์กรอิสระควรใช้ความระมัดระวังและความรอบคอบ หากเข้าใจและศึกษาโดยถ่องแท้ถึงกฎหมายภายในประเทศ กฎหมายต่างประเทศ เเละที่มาที่ไปของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตลอดจนกรอบแนวความคิดในระบอบประชาธิปไตย ก็คงเไม่ทำในสิ่งที่ผิดพลาด ด้วยการไปร้องทุกข์ให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีกับประธานศาลฎีกา

“ผมเห็นว่าการกระทำของในวัส ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกขององค์กรอิสระ ที่มีการประพฤติปฏิบัติในลักษณะล่วงเกินประธานศาลฎีกาในฐานะประมุขของผู้ใช้อำนาจตุลาการ ซึ่งไม่ถูกต้องและน่าตำหนิอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตุลาการถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็คงไม่ถือสาและให้อภัยในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์” นายศรีอัมพรกล่าว 

มีข้อน่าสังเกตว่าขณะนี้มีสิ่งผิดปกติในองค์กรอิสระ ที่มีกสม.จำนวนมากลาออกไปเกือบหมด คงเหลือแต่ประธานและกรรมการอีก 1-2 คนเท่านั้น ไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องการบริหารงานหรือความด้อยประสิทธิภาพของคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ เนื่องจากในการประชุมระหว่างประเทศเกี่ยวกับกสม. ก็มีการลดอันดับความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการชุดนี้ลงให้อยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไปของโลก

นายศรีอัมพร กล่าวว่า ดังนั้น ถึงประธานศาลฎีกาใช้ดุลพินิจและแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวขึ้นทำหน้าที่แทนไปพลางก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าการแต่งตั้งดังกล่าวจะเป็นผลดีหรือผลเสียแก่การดำเนินงานของกรรมการชุดนี้ เเละถึงมีการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวขึ้นมาก็ไม่แน่ว่า กรรมการชุดนี้จะมีผลงานในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้จริงดังคำกล่าวอ้างของประธานกรรมการชุดนี้หรือไม่