“ทรัมป์” จัดหนักขึ้นภาษี 2.3 แสนล้าน สะสางแค้น 15 ปี คดีอียูลอบหนุน “แอร์บัส”

เอเอเฟพี และ เทเลกราฟ รายงานวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ว่า  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา แถลงยกย่องคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการองค์กรการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) หลังอนุญาตให้สหรัฐบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้ความขัดแย้งซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 15 ปี

จากกรณีที่ สหภาพยุโรป (อียู) ให้การอุดหนุนอย่างผิดกฎหมายแก่ แอร์บัส บริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส โดยสหรัฐจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศสมาชิกอียู มูลค่ากว่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 230,000 ล้านบาท ในวันที่ 18 ต.ค.นี้

นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ เจ้าหน้าที่ผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐ กล่าวว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมายุโรปให้ทุนอุดหนุนขนาดใหญ่แก่แอร์บัส และนั่นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอากกาศยานของสหรัฐ พร้อมระบุคาดว่าจะเริ่มหารือกับอียูเพื่อสะสางปัญหาดังกล่าวในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของสหรัฐ และเดินหน้ามาตรการขึ้นภาษีนำเข้าจากอียูทันที “เราชนะหลายอย่างที่ดับเบิลยูทีโอ ประเทศเหล่านั้นปล้นสะดมสหรัฐอเมริกามานานหลายปี และพวกเขารู้ว่าผมตระหนักถึงเรื่องนี้ดี” ผู้นำสหรัฐกล่าว

อียูจะเผชิญกับการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าอากาศยานสู่สหรัฐที่ร้อยละ 10 และร้อยละ 25 สำหรับสินค้าทั่วไป ครอบคลุมถึงชีส วิสกี้ น้ำมันมะกอก และสินค้าอุตสาหกรรมบางส่วน โดยเฉพาะจาก 4 ประเทศหลักที่สนับสนุนแอร์บัส ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐยื่นเรื่องร้องเรียนต่อดับเบิลยูทีโอเมื่อปี 2547 ว่า รัฐบาลยุโรปให้การอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมต่อการผลิตเครื่องบินแอร์บัสเพื่อสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่รัฐบาลอียูก็ร้องเรียนเช่นกันว่าสหรัฐอัดฉีดโบอิ้ง ผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐเอง