‘ดีเอสไอ’ยังรอสำนวนปปท. ก่อนสรุปจำนวนผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าบิลลี่ ชี้คืบหน้า 80% ผลตรวจพิสูจน์กระดูก อีก 2 สัปดาห์รู้ผล

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ กะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยว่า ขณะนี้การสอบสวนคดีมีความคืบหน้าไปกว่า 80 % แล้ว โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันที่ 7 ต.ค.นี้ คณะพนักงานสอบสวนจะประชุมตรวจสำนวนหลักฐานในคดี จากนั้นจะแจ้งความคืบหน้าของคดีให้รับทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอยังรอสำนวนการสอบสวนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่ง ป.ป.ท.ส่งไปให้ ป.ป.ช.แล้ว แต่ ป.ป.ช.ยังไม่ได้จัดส่งมาให้ดีเอสไอ ซึ่งต้องเร่งรัดติดตามเพราะสำนวนคดีดังกล่าวเป็นพื้นฐานที่จะต้องมาดูว่า ป.ป.ทได้สอบประเด็นใดไปบ้าง และมีอะไรที่ดีเอสไอจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกบ้าง รวมถึงการระบุจำนวนของกลุ่มผู้ต้องสงสัยร่วมกันก่อคดีฆ่าคนตาย ส่วนวัตถุพยานที่สูญหายไปนั้น ทั้งรถจักรยานยนต์ กระเป๋าเป้ และกล้องถ่ายรูปของบิลลี่นั้น ดีเอสไอกำลังเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานทุกอย่างทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และหลังเกิดเหตุซึ่งรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐานในสำนวนหมดแล้วแต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวถึงแรงจูงใจที่เชื่อมโยงที่ทำให้บิลลี่หายตัวไปว่า หากถามคนในพื้นที่ก็จะพูดตรงกันถึงมูลเหตุและแรงจูงใจ แต่การสอบสวนคดีของดีเอสไอต้องพิสูจน์ด้วยพยานหลักฐาน อีกทั้งทำในรูปของคณะกรรมการมีอัยการและสหวิชาชีพมาให้ข้อมูลและร่วมเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ ส่วรการตรวจสอบชิ้นส่วนกระดูกอีก 8 ชิ้นนั้น สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ประสานเบื้องต้นว่า ไม่ได้ใช้การตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอไมโทรคอนเดรียเพียงอย่างเดียว แต่ใช้เทคโนโลยีและวิธีการทุกอย่าง คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จึงจะทราบผลการตรวจ

“ขณะนี้ดีเอสไอมีหลักฐานทุกอย่างครบ ทั้งกล้องวงจรปิด ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร เพียงแต่รอการเชื่อมโยงหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วนก็จะสรุปสำนวนได้ ระหว่างนี้ได้แจ้งกับภรรยาและญาติพี่น้องของบิลลี่ว่า ดีเอสไอเป็นห่วงในความปลอดภัย เนื่องจากบ้านที่อาศัยอยู่ห่างไกลและมีความไม่สะดวก หากรู้สึกไม่ปลอดภัย ให้แจ้งมายังดีเอสไอทันทีเพื่อเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ยังปกติดี”อธิบดีดีเอสไอกล่าว