‘บิณฑ์’ประกาศปิดรับบริจาคน้ำท่วม ยอดทะลุ422ล้านบาท พร้อมให้ตรวจสอบการใช้เงิน

“บิณฑ์”ประกาศปิดบัญชีรับบริจาค ยอดรวม จำนวน 422,496,062 บาท มีคนนำเงินสดมามอบให้อีกจำนวน 4,008,002 บาท ได้ช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 13,078 ครัวเรือน ครอบครัวละ 5,000 บาท ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการทุพพลภาพ 1,677 ราย วัด 51 แห่ง โดยยอดเงินเบิกจ่าย 82 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 74,484,000 บาท ยอดเงินเหลือกว่า 344,504,000 บาท พร้อมให้ตรวจสอบการใช้เงิน

วันที่ 2 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมวิจิตรพร อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ และ เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ แถลงข่าวผลกการดำเนินการในเรื่องการเปิดรับบริจาค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานี ตลอดระยะเวลา กว่า 1 เดือนที่ผ่านมา และการดำเนินการให้การช่วยเหลือ การเบิกจ่ายเงิน การแจกเงินให้กับครอบครัวผู้ประสบภัย โดยมียอดรวม จำนวน 422,496,062 บาท มีคนนำเงินสดมามอบให้อีกจำนวน 4,008,002 บาท โดยในวันที่ 16 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม ได้ช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 13,078 ครัวเรือน ครอบครัวละ 5,000 บาท ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการทุพพลภาพ 1,677 ราย วัด 51 แห่ง

โดยยอดเงินเบิกจ่าย 82 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 74,484,000 บาท ยอดเงินเหลือกว่า 344,504,000 บาท ขณะนี้ได้ช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยน้ำท่วมไปแล้ว 13,078 ครอบครัว 7 อำเภอ ในจังหวัดอุบลราชธานี โดยตนและคณะมูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องขอขอบคุณประชาชนทั่วประเทศ ที่ร่วมใจกันบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ พี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้

บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า ถึงแม้ปิดบัญชีแล้ว ถ้ามีการเจอกันที่ไหน หรือจะแจ้งความจำนงบริจาคเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งความจำนงมาได้ตลอด แต่บัญชีที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 บัญชี จะขอปิดบัญชีไว้ โดยทีมงานเรามีการทำเอกสารการเบิกจ่ายใช้เงินบริจาค เป็นไปอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยการช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้ทางมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงจะเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเพื่อมอบเงินอีก ซึ่งในวันนี้มีแผนที่จะเข้าไปอีก 2 อำเภอ จะช่วยเหลือให้ครบทุกพื้นที่ก่อนวันที่ 15 ตุลาคมนี้ หลังจากนั้นก็จะนำเงินที่เหลือมาฟื้นฟูวัดโรงเรียน และสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบทุกจังหวัดโดยจะพยายามเร่งแจกจ่ายเงินให้ได้เร็วที่สุด เข้าถึงประชาชนที่ประสบภัยอย่างแท้จริง

บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ กล่าวว่าการให้ความช่วยเหลือของมูลนิธิร่วมกตัญญล่าช้า เพราะต้องตรวจสอบเอกสารของคนมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ เกรงว่าจะมีกลุ่มคนฉวยโอกาสมารับเงินบริจาค และพร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบการเบิกจ่ายงบในการช่วยเหลือเพื่อความโปร่งใส