“ลดาวัลลิ์” เศร้า กสม.เจอแต่เรื่องวุ่น จี้ ส.ว.-กก.สรรหาเร่งคลอด หวั่นยิ่งช้ายิ่งเสียหาย

วันที่ 1 ตุลาคม 2562 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเศร้าใจเมื่อได้ข่าวว่านายวัศ ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.ให้ไต่สวนนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาในฐานะประธานกรรมการสรรหา กสม. ฐานะเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากไม่แต่งตั้งบุคคลเข้ามาเป็น กสม.ชั่วคราวเพื่อให้กสม.ชุดของนายวัศที่เหลือ3คนมีจำนวนเหลือองค์ประชุม กระทั่งนายชีพเกษียณเมื่อวันที่ 30 กันยายน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และอาจไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า เป็นความโชคร้ายของประเทศไทยที่การสรรหา กสม.ชุดใหม่ 7คนเพื่อมาแทนกสม.ชุดนายวัศมีเหตุให้สะดุดหยุดลง ใช้เวลาเกือบปีครึ่งก็ยังสรรหาไม่เสร็จ ตนไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของคณะกรรมการสรรหา กสม.ที่การนัดประชุมแต่ละครั้งทอดเวลายาวนานและการลงคะแนนเลือกผู้สมัครไม่ครบจำนวนตามต้องการสักที ทราบข่าวว่าการประชุมในวันที่11หรือ12ตุลาคมนี้ เพื่อฟังผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ ตนอยากให้เสร็จสิ้นโดยเลือกให้ได้1คนเพื่อนำไปรวมกับอีก4คนที่ผ่านกรรมการสรรหา กสม.มาแล้วเมื่อต้นเดือนสิงหาคม จะได้ส่งรายชื่อให้วุฒิสภาตรวจสอบประวัติและความประฤติก่อนจะลงมติให้ความเห็นชอบ ตนมีความเห็นว่า วุฒิสภาควรจะบรรจุระเบียบวาระให้พิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการไปตรวจสอบประวัติ5ว่าที่ กสม.ในช่วงที่จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที17ตุลาคมนี้ เมื่อได้5คนนี้แล้ว จะได้นำไปสมทบกับอีก2คนที่ผ่านความเห็นชอบของ สนช.เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วรวมเป็น7คนเพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงแต่งตั้งเป็น กสม.

นางลดาวัลลิ์กล่าวอีกว่า หากรอไปถึงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมยังไม่ได้ กสม.ชุดใหม่ จะเกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการจัดทำงบประมาณปี2564 เพื่อใช้ปฏิบัตหน้าที่ของ กสม.

นางลดาวัลลิ์กล่าวในตอนท้ายว่า แม้การสรรหาของคณะกรรมการและการลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบของวุฒิสภาจะเป็นอิสระ แต่ความล่าช้าที่นำไปสู่สภาวะชะงักงันของประเทศที่ไร้องค์กรอิสระด้านสิทธิมนุษยชนมาดูแล ทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนถูกหมักหมมจนถึงขั้นวิกฤต ถือเป็นความเคราะห์ร้ายของคนไทยทั้งประเทศ ปัญหานี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ