เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ ว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางมาเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ สมัยที่ 74 ที่นครนิวยอร์ก ได้เข้าร่วมการประชุมที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนใน 4 กรอบ ประกอบด้วยการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกับคณะมนตรีรัฐอ่าวอาหรับ(จีซีซี) การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกับแปซิฟิกอัลไลแอนซ์ และการประชุมอาเซียนกับสหประชาชาติ

น.ส.บุษฎีกล่าวว่า ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกับจีซีซี ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นไปด้วยดี แต่ยังเห็นลู่ทางที่จะเพิ่มพูนการติดต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการส่งเสริมการค้าและการทำธุรกิจระหว่างกัน เพิ่มพูนช่องทางความเชื่อมโยง ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) รวมถึงเทคโนโลยีดิจิตอล การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนต่อประชาชน ที่ประชุมสนับสนุนแผนงานอาเซียน-จีซีซี และมองว่าขณะนี้ทั้งสองกลุ่มถือว่ามีพลวัตรทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถขยายผลต่อไปได้อีกในอนาคต

น.ส.บุษฎีกล่าวต่อว่า สำหรับการหารือยังไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้มีการหารือถึงภาพรวมของการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 35 โดยที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างกำหนดการที่ฝ่ายไทยจัดเตรียมขึ้น และจะมีเอกสารที่เป็นผลลัพธ์ของที่ประชุมรวม 44 ฉบับ ทั้งในส่วนที่เป็นเอกสารของอาเซียนเองและเอกสารของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา รวมถึงสหประชาชาติ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ในกรอบการหารือกับแปซิฟิก อัลไลแอนซ์ ซึ่งประกอบด้วยชิลี โคลัมเบีย เปรู และเม็กซิโก ซึ่งเป็นการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและมีกิจกรรมด้านการลงทุน ทางกลุ่มเห็นถึงศักยภาพของอาเซียนจึงอยากสานต่อและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งยังเห็นถึงโอกาสที่จะเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างกันในอนาคตต่อไป

น.ส.บุษฎีกล่าวว่า ในการพบกับนายนายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาตินั้น นายกุแตเรชชื่นชมอาเซียนที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค และมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาต่างๆในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการประชุมยูเอ็นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าแนวทางการดำเนินงานของอาเซียนสอดคล้องกับทิศทางของยูเอ็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาเซียนเป็นองค์กรภูมิภาคที่มีความรับผิดชอบ

น.ส.บุษฎีกล่าวว่า ไทยยังได้รายงานถึงการเชื่อมโยงวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยจะมีการนำเสนอรายงานให้ที่ประชุมอาเซียน-ยูเอ็นรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีการพูดคุยกันถึงประเด็นในภูมิภาคที่อาเซียนได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา อาทิ ทะเลจีนใต้ คาบสมุทรเกาหลี และสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ที่ประชุมยังเห็นพ้องที่จะให้การสนับสนุนเวทีพหุภาคีว่าต้องเดินหน้าต่อ ไป เนื่องจากเป็นหลักที่ทำให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนและทำให้ประชาคมระหว่างประเทศเดินหน้าไปได้ภายใต้หลักกฎหมาย และเคารพกฎกติกาที่มีต่อไป