สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “โจโก วิโดโด” ประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซียได้ประกาศเลื่อนการลงคะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อ “ร่างกฎหมายอาญาฉบับใหม่” ที่ระบุให้ ความสัมพันธ์นอกสมรสเป็นความผิดทางอาญาและห้ามการหมิ่นประมาทประธานาธิบดี หลังเผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

โดยร่างประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่นี้กำหนดให้ คู่ครองที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยไม่ผ่านการสมรสจะถูกลงโทษจำคุก 6 เดือน ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎหมายนี้มุ่งหมายไปที่การทำให้คู่รักของผู้มีความหลากหลายทางเพศกลายเป็นอาญากรรม มากกว่าที่จะบังคับใช้กลับคู่ชาย-หญิง

ฮิวแมนไรท์วอทช์ชี้ว่า ร่างประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว “ไม่เพียงละเมิดต่อผู้หญิง กลุ่มความเชื่อทางศาสนา และผู้มีความหลากหลายทางเพศเท่านั้น แต่จะสร้างความเสียหายแก่ชาวอินโดนีเซียทุกคน” โดยเฉพาะการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ

ส่วนเนื้อหาที่ระบุ ห้ามมิให้มีการหมิ่นประมาทประธานาธิบดีก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน

ทั้งนี้ ร่างประมวลกฎหมายอาญาใหม่นี้ถูกนำเสนอให้ปรับปรุงแก้ไขตั้งแต่ปี 2015 เพื่อบังคับใช้แทนประมวลกฎหมายอาญาเก่าที่ใช้งานมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเนเธอแลนด์ปกครองอินโดนีเซีย โดยผ่านการนำเสนอเข้าสู่การอภิปรายในรัฐสภาของอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีกำหนดการลงคะแนนเพื่อผ่านร่างกฎหมายนี้ภายในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) หลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอภิปรายเสร็จสิ้น เพื่อนำไปสู่การให้สัตยาบันและบังคับใช้

ประธานาธิบดีวิโดโดระบุว่า การตัดสินใจเลื่อนการลงคะแนนเกิดขึ้นหลังจากที่ ได้พิจารณาข้อเสนอแนะอย่างจริงจังจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาสาระบางส่วนของกฎหมายฉบับนี้ โดยเนื้อหาบางอย่างต้องมีการศึกษาในเชิงลึกต่อไป “ในกรณีนี้ผมได้สั่งการให้รัฐมนตรีด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนส่งความเห็นของผมไปยังรัฐสภา รวมถึงรวบรวมคำวิจารณ์จากสาธารณชนอีกครั้งเพื่อประกอบการตัดสินใจที่ดียิ่งยิ่งขึ้น”

ขณะที่ นานาชาติได้เริ่มมีปฏิกิริยาต่อร่างกฎหมายดังกล่าวอย่าง ออสเตรเลียได้ออกคำแนะนำด้านการท่องเที่ยวโดยระบุเจาะจงไปที่ร่างกฏหมายอาญาดังกล่าวและบทลงโทษที่รุนแรง