อดีตปลัดกทม.เฮ  ศาลเพิกถอนคำสั่งกทม.ชดใช้เงินคดีทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงปี47  แต่ อดีต อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ไม่รอด  ศาลระบุเป็นหนึ่งในสามคนที่ต้องรับผิดในคดีนี้

เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ศาลปกครอง ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนคำสั่ง กทม.ที่ให้คุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม. ชนะคดีไม่ต้องชดใช้เงินจำนวน 429,977,904.46บาท  ให้กับ กทม. กรณีเกิดความเสียหายการทุจริตการซื้ออุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย จากบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย เมื่อปี 2547

โดยศาลพิจารณาเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีนี้ รับฟังได้ว่า  คุณหญิงณัษฐนนท เพียงลงนามผ่านเรื่องให้นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผู้ว่า กทม.ในขณะนั้นอนุมัติตามคำสั่งของนายสมัคร ส่วนกรณีที่อ้างว่า คุณหญิงณัษฐนนทไม่สั่งการให้มีการตรวจสอบในเรื่องภาษีอากรนำเข้ารถและเรือดับเพลิงจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญเหตุหนึ่งทำให้ กทม.ไม่สามารถนำรถดับเพลิงออกจากท่าเรือแหลมฉบังและต้องมีข้อพิพาทกับกรมศุลกากรนั้น เป็นผลมาจาก คตส.และ ป.ป.ช.ตรวจสอบการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยดังกล่าว และ กทม.ฟ้องคดีต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าต่างประเทศกลางขอยกเลิกข้อตกลงซื้อขายรถ-เรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย กับบริษัท สไตเออร์ฯ จึงไม่มีตรวจรับรถ รวมทั้ง กทม.ไม่ได้หาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ชัดเจนและยุติโดยเร็ว เป็นเหตุรถ-เรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยเสื่อมสภาพ ดังนั้น การที่ผู้ว่าฯกทม.พิจารณาว่าคุณหญิงณัษฐนนท ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยรับฟังข้อเท็จจริงมาไม่ถูกต้องครบถ้วน และมีคำสั่ง กทม.ให้คุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 429,977,904.46 บาท แก่ กทม.จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาเพิกถอนคำสั่ง

นอกจากนี้ ศาลปกครอง ยังมีคำพิพาษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ยื่นฟ้อง กทม. ผู้ว่าฯ กทม. และ รมว.มหาดไทย กรณีมีคำสั่งให้พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีเกิดความเสียหายการทุจริตการซื้ออุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย จากบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย เมื่อปี 2547 เป็นเงินจำนวน 1,296,794,910.27 บาทแก่ กทม. เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  โดยศาล ให้เหตุผลว่า จากข้อเท็จจริงพิจารณาได้ว่า ความเสียหายจากการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยดังกล่าว มีบุคคลที่ควรต้องรับผิดเพียง 3คน คือ นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย นายสมัคร สุนทรเวช อดีต ผู้ว่าฯ กทม. และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ในฐานะ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ในขณะนั้น  เมื่อ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ เป็นผู้มีส่วนผลักดันโครงการนี้มาตั้งแต่ต้น หากพล.ต.ต.อธิลักษณ์ไม่ให้ความร่วมมือกับนายประชา และนายสมัคร การทำสัญญาดังกล่าวซื้อขายดังกล่าวย่อมไม่เกิดขึ้น พล.ต.ต.อธิลักษณ์จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้ กทม.ได้รับความเสียหายจากการทำสัญญาซื้อรถ-เรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย จากบริษัท สไตเออร์ฯ และสมควรรับผิดในสัดส่วนร้อยละ 40ของมูลค่าความเสียหาย 3,892,600,765.44 บาท คิดเป็นเงิน 1,557,040,306.18 บาท ดังนั้น การที่ ผู้ว่าฯ กทม.มีคำสั่งให้พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงินจำนวน 1,296,794,910.27 บาทแก่ กทม. จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว พิพากษายกฟ้อง