“สุดารัตน์” อัด นายกฯทำตัวอยู่เหนือสภา-รธน. ไม่ตอบสิ่งที่ถาม จงใจทำให้ปัญหาค้างคา

“สุดารัตน์” อัด นายกฯ ทำตัวอยู่เหนือสภา และรธน. ทั้งไม่สนใจฟังคำถาม-ไม่ตอบสิ่งที่ถาม ลั่น พร้อมใช้ทุกช่องทางทางกม.เอาผิด ด้

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงการชี้แจงของนายกฯในสภากรณีฝ่ายค้านขออภิปรายตามมาตรา 152 ว่า ภาพรวมถือว่าฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างดี อภิปรายได้เข้าเนื้อหา แต่น่าเสียดายที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ใช้เวทีสภาในการหารือตอบข้อซักถามในการหารือ และหาทางออกร่วมกัน ถามไปว่าไป ไม่สนใจฟังคำถาม และไม่ตอบอะไรใดๆ ที่หลายคนพูดว่านายกฯไม่ให้เกียรติสภา ตนไม่ได้มองในประเด็นนั้นแล้ว เพราะท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับสภาอยู่แล้ว แต่หากคิดจะเป็นนายกฯภายใต้ระบอบประชาธิปไตยต้องเคารพรัฐธรรมนูญ และต้องเห็นว่าสภาคือเครื่องมือในการหารือเพื่อหาทางออกของประเทศ ไม่ใช่กลัวสภา และทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ กลายเป็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกเขียนมาเพื่อสืบทอดอำนาจคสช. เมื่อเป็นดังนี้ก็ไม่ใจรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเขียนขึ้นมาเอง แล้วเราจะปล่อยให้ประเทศเป็นอย่างนี้หรือ ทั้งนี้ จะเห็นว่าฝ่ายค้านทุกพรรคทำหน้าที่เต็มที่แล้ว มีเพียงนายกฯที่ไม่ตอบอะไรเลย หรือตอบก็ไม่ตรงกับที่ถาม ก็ได้เห็นชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์เลือกที่จะไม่จบปัญหานี้ เลือกที่จะทำให้การทำผิดรัฐธรรมนูญค้างคาอีกต่อไป และในภายภาคหน้าเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ครม.อนุมัติ สิ่งที่นายกฯทำขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งภายภาคหน้าท่านอาจจะไม่มีองค์กรอิสระคอยอุ้มท่านอยู่แบบนี้ ถึงวันนั้นไม่ได้ห่วงว่าท่านจะเกิดอะไร แต่ห่วงว่าโครงการที่ท่านอนุมัติจะถูกยกเลิก และส่งผลเสียต่อประชาชน

“ขณะนี้ท่านทำตัวอยู่เหนือสภา และรัฐธรรมนูญ เราจะปล่อยให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป แล้วปล่อยผลเสียไว้กับประเทศ และประชาชน วันนี้เศรษฐกิจไปไม่ได้แล้ว ซึ่งเศรษฐกิจจะไปต่อได้ต้องมีความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นกับรัฐบาล และประเทศ แต่วันนี้ความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นต่ำลงไปทุกที ถือเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลไม่มีทั้งความน่าเชื่อถือ และน่าเชื่อมั่น ขณะนี้เราเกิดสงครามการค้า ได้คนเก่งมาทำงานก็ยากลำบากแล้ว แต่วันนี้เรากลับได้คนที่ไม่เก่ง และไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยมาทำงาน ยิ่งยากที่จะฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) เสนอช่องให้ 7 พรรคฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช. เพื่อร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้พิจารณาเรื่องนี้ต่อไป คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราจะใช้ทุกช่องทางทางกฎหมายเพื่อดำเนินการเอาผิด โดยฝ่ายกฎหมายของทั้ง 7 พรรคจะมาหารือกันอีกครั้ง

เมื่อถามถึงการเตรียมการอภิปรายพ.ร.บ.งบประมาณที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. กล่าวว่า เราได้เตรียมการเรื่องนี้ในการเปิดประชุมวิสามัญที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้แล้ว เพราะถือเป็นภารกิจสำคัญอีกครั้งของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เนื่องจากการจัดทำพ.ร.บ.เป็นสำคัญ และเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งทั้ง 7 พรรคจะประชุมเพื่อกำหนดวิธีการที่จะเข้าไปตรวจสอบการบริหารงบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะขณะนี้เรามีงบประมาณเหลือน้อย เหมือนมีน้ำอยู่ขันเดียว แต่แห้งแล้งไปทั้งแผ่นดิน การจัดทำงบประมาณให้คุ้มค่ากับประชาชนให้มากที่สุดถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะเข้าไปตรวจสอบ ดูแล และนำเสนอ ทั้งนี้ ต้องจัดลำดับความสำคัญให้เป็น อะไรที่ไม่เกิดเป็นรายได้ หรือทรัพย์สินใหม่ต่อประชาชนต้องไม่ใช้ เพราะไม่ได้เป็นการจัดทำงบประมาณแบบปกติ ทั้งนี้ รัฐบาลก่อนหน้านี้แม้จะเป็นคนละชุด แต่เป็นทีมเดียวกัน ซึ่งได้จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลทำให้เรามีหนี้เกือบ 2 ล้านล้านบาทแล้ว แต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย วันนี้ เหตุการณ์หนักกว่าเก่า คุณจะมาจัดงบประมาณแบบตามใจคุณไม่ได้แล้ว แต่ต้องจัดงบที่มีน้อยนิดนี้ให้ลงไปถึงประชาชน ทั้งนี้ เราจะดูความจริงใจของรัฐบาลในการจัดทำงบประมาณครั้งนี้