รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากกรณีรัฐบาลเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในโครงการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” เข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 มียอดบริจาค กว่า 263 ล้านบาท ขณะนี้มีประชาขนและองค์กรต่างๆ บริจาคผ่านนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง ล่าสุดอยู่ที่ 355 ล้านบาท

ทั้งนี้ เหตุผลที่คนแห่บริจาคเงินผ่านนายบิณฑ์ เพราะทุกคนต้องการให้เงินบริจาคของตัวเองถึงมือผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนทันที ไม่ต้องติดขัดขั้นตอนทางราขการ อีกทั้ง มีประชาชนประชาชนสอบถามถึงแนวทางในการนำเงินให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของรัฐบาล เนื่องจากมีข้อสงสัยถึงความล่าช้า

ทั้งนี้ นายสมพาศ นิลพันธุ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องนี้ ชี้แจงว่า เงินที่มีการบริจาค จะนำเข้าสู่กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กรรมการกำหนด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ

ที่ผ่านมา จะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 50,000 บาท และการช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย โดยเสียหายทั้งหลังช่วย 200,000 บาท ตามลักษณะความเดือดร้อนต่อไป โดยต้องให้ทางจังหวัดเสนอการช่วยเหลือมาหลังจากน้ำลด ก็จะมีการนำเงินในกองทุนไปช่วยเหลือ ถือเป็นเงินที่จะช่วยเหลือเพิ่มจากที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯให้การเยียวยาช่วยเหลืออยู่แล้ว

นอกจากนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินคงเหลืออยู่ประมาณ 790 ล้านบาท เมื่อรวมกับที่รับบริจาคเพิ่มได้ 263 ล้านบาทเมื่อคืนนี้ คาดมีเงินกว่า 1,000 ล้านบาทในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย แม้ตามระเบียบระบุว่าจะเบิกจ่ายได้ทันที แต่ก็ยังมีหลักเกณฑ์ ขั้นตอนของราชการ ที่จะมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และบ้านเรือนที่เสียหาย ที่จะให้หลังจากน้ำลดแล้ว ตามที่ทางจังหวัดเสนอ

อย่างไรก็ตาม ยอดบริจาคของกองทุนฯ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.มียอดแจ้งบริจาค จำนวน 264,376,569.00 บาท ซึ่งแบ่งเป็นยอดรับบริจาค จำนวน 75,280,507.98 บาท (ยอดรับบริจาควันที่ 16-17 ก.ย.16,594,602.69 ยาท และยอดบริจาควันที่ 18 ก.ย.58,685,905.29 บาท) และยอดรอ
บริจาค 189, 096,061.02 บาท

โดยรายงานข่าวแจ้งว่า เงินในส่วนยอดรอการบริจาคส่วนใหญ่เป็นเงินบริจาคจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ ที่เป็นเงินงบประมาณซึ่งต้องรอขั้นตอนการเบิกจ่ายอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกสาเหตุของความล่าช้า