วิษณุ ชี้ พูดมานานแล้ว หน.คสช.ไม่ใช่จนท.รัฐ อาจดูเหมือนใช่ แต่จะใช้ความรู้สึกไม่ได้

“วิษณุ” เชื่อ “บิ๊กตู่” สบายใจขึ้น หลังศาลรธน.ชี้ ไม่ขาดคุณสมบัติ-ไม่เป็นจนท.รัฐ แจงย้ำความแตกต่าง “หัวหน้าคสช.” ตำแหน่งพิสดาร อยู่ชั่วคราว ตั้งจากไหน-สิ้นสุดอำนาจเมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่เหมือนพนง.-ลูกจ้างรัฐ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง(4) ประกอบมาตรา 160(6) และมาตรา 98(15) หรือไม่ จากเหตุดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่าความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ว่า

เรื่องดังกล่าวคงทำให้นายกฯทำงานได้สบายใจขึ้น รัฐบาลพยายามชี้แจงมาหลายครั้งว่าไม่ใช่ เมื่อมีเรื่องส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจึงชี้แจงไปว่าตำแหน่งหัวหน้าคสช. นั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้ว่าชาวบ้านทั่วไปอาจรู้สึกว่าเป็น เพราะอาจรู้สึกว่าไม่เป็นได้อย่างไร ในเมื่อรับเงินเดือน มีอำนาจ นิยามคำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้เป็นอย่างนั้น โดยหลักในการตีความกฎหมายบอกไว้แล้วว่า หากมีคำอะไรนำหน้ามาอย่างน้อยสองคำ แล้วเอ่ยถึงคำที่สามที่ไม่รู้ว่าคืออะไร ก็ให้แปลคำที่สามให้ใกล้เคียงกับสองคำแรก ซึ่งนี่คือการตีความที่ใช้กันมาตลอด เพราะฉะนั้นเมื่อเอ่ยถึงคำว่าพนักงานหรือลูกจ้างของรัฐ และหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องแปลคำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เหมือนกับพนักงานหรือลูกจ้างของรัฐ นั่นแปลว่าเป็นตำแหน่งประจำ มีเงินเดือนประจำ มีอำนาจหน้าที่ประจำ หากตายหรือเกษียณก็มีคนใหม่แทน แต่หัวหน้าคสช. นั้นไม่มีลักษณะเหมือนสองคำนั้น คือไม่ประจำ อยู่ชั่วคราว มีเงินเดือนก็จริงแต่อำนาจพิเศษไม่เหมือนอำนาจตามกฎหมาย ตั้งมาจากไหนไม่รู้ พ้นจากอำนาจเมื่อไหร่ไม่รู้ อะไรต่ออะไรพิสดารหน่อย ซึ่งเป็นไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน และได้ระบุประโยคนี้ไว้ด้วย

“ พวกกระผมได้อธิบายอย่างนั้นมาตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่พอพูดไปก็หาว่าชี้นำ นำไม่นำก็ไม่รู้ เมื่อสื่อมาถามก็ตอบ และหลังจากนั้นจึงนึกขึ้นได้ว่าอย่าพยายามตอบ เอาไว้ตอบคนที่อยากฟังจะดีกว่า ” นายวิษณุกล่าว